หลักเกณฑ์การดำเนินงานของ Kingston

Kingston Technology Company, Inc. และสถานประกอบการของบริษัททุกแห่งทั่วโลก (ต่อไปนี้เรียกรวมกันว่า “Kingston”) มีความมุ่งมั่นที่จะนำหลักเกณฑ์การดำเนินงานเพื่อการร่วมมือกันทางธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Business Alliance หรือ RBA) มาใช้ โดยหลักเกณฑ์ดังกล่าวกำหนดมาตรฐานที่ช่วยให้สภาพการทำงานมีความปลอดภัยและการทำธุรกิจเป็นไปอย่างมีความรับผิดชอบ ถูกต้องตามหลักจริยธรรม รวมทั้งเคารพต่อสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม Kingston เชื่อว่าการสนับสนุนและการนำหลักเกณฑ์การดำเนินงาน RBA (เรียกต่อจากนี้ว่า “หลักเกณฑ์การดำเนินงานนี้”) นี้มาใช้กับปฏิบัติการทางธุรกิจของเรา จะช่วยให้เราสามารถส่งเสริมและรักษาความซื่อตรงในการดำเนินงานทางธุรกิจของเราในทุก ๆ ด้าน และเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายที่หลักเกณฑ์การดำเนินงานนี้กำหนดไว้ Kingston คาดหวังให้ซัพพลายเออร์รับทราบและนำหลักเกณฑ์การดำเนินงานนี้ไปใช้ ทั้งมาตรฐานเกี่ยวกับแรงงาน สวัสดิภาพและความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม จริยธรรมทางธุรกิจ ตลอดจนองค์ประกอบและระบบที่ยอมรับได้ในการจัดการการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การดำเนินงานนี้ เราตระหนักดีถึงเงื่อนไขทางกฎหมายและด้านวัฒนธรรมต่าง ๆ ของซัพพลายเออร์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่บนโลก หลักเกณฑ์การดำเนินงานนี้เป็นการกำหนดเงื่อนไขขั้นต่ำที่คาดหวังสำหรับซัพพลายเออร์ทุกรายที่ร่วมงานกับ Kingston ซัพพลายเออร์จะต้องให้ความร่วมมือกับแนวทางการประเมินของ Kingston ในการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การดำเนินงานนี้ และพร้อมเปิดรับการตรวจสอบ รวมถึงที่ไซต์งานของซัพพลายเออร์โดยตัวแทนจาก Kingston ซัพพลายเออร์ควรมีการจัดทำเอกสารกำกับที่จำเป็นเพื่อยืนยันการควบคุมมาตรฐานตามหลักเกณฑ์การดำเนินงานนี้และจะต้องให้สิทธิ์แก่ Kingston ในการสืบค้นเอกสารกำกับเมื่อได้รับการร้องขอจาก Kingston ซัพพลายเออร์ควรเปิดโอกาสตามความเหมาะสมให้แก่ Kingston ในการเข้าสู่พื้นที่การผลิตเพื่อตรวจเยี่ยมสถานที่ การละเมิดหลักเกณฑ์การดำเนินงานนี้โดยซัพพลายเออร์ของ Kingston อาจนำไปสู่การยุติความสัมพันธ์ทางธุรกิจ และซัพพลายเออร์จะต้องให้ความร่วมมือกับ Kingston ในการประเมินแนวทางการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การดำเนินงานนี้ตามที่เห็นว่าเหมาะสม หลักเกณฑ์การดำเนินงานนี้จะต้องมีเก็บไว้และปรับปรุงเนื้อหาให้เป็นข้อมูลล่าสุดตามที่เผยแพร่ไว้โดย RBA

A. แรงงาน

Kingston เคารพในสิทธิมนุษยชนของแรงงานและปฏิบัติต่อแรงงานอย่างมีศักดิ์ศรี หลักเกณฑ์ข้อนี้ครอบคลุมถึงซัพพลายเออร์โดยตรงและโดยอ้อม ตลอดจนผู้ปฏิบัติงานทุกคน ทั้งแรงงานชั่วคราว แรงงานย้ายถิ่นฐาน นักเรียน แรงงานสัญญาจ้าง พนักงานทางตรงและแรงงานประเภทอื่น ๆ

มาตรฐานแรงงานครอบคลุม:

  1. ห้ามใช้แรงงานบังคับ

    แรงงานบังคับทุกรูปแบบ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะแรงงานทาส (หรือใช้มูลหนี้เพื่อบังคับใช้แรงงาน) หรือแรงงานขัดหนี้ การใช้แรงงานของผู้ต้องขังโดยไม่สมัครใจหรือที่เป็นการหาประโยชน์ แรงงานทาสหรือการซื้อขายแรงงานอย่างผิดกฎหมายใด ๆ ซึ่งรวมไปถึงการขนส่ง ขนย้าย คัดสรรหรือส่งต่อหรือรับบุคคลใด ๆ โดยวิธีการที่เป็นการข่มขู่ ใช้กำลัง ขู่บังคับ ลักพาหรือโดยวิธีการฉ้อโกงเพื่อให้ได้แรงงานหรือบริการใด ๆ ห้ามไม่ให้กำหนดข้อจำกัดใด ๆ ที่ไม่มีเหตุสมควรซึ่งกระทบต่อเสรีภาพของแรงงานในการเคลื่อนย้ายภายในส่วนปฏิบัติการ รวมทั้งข้อจำกัดอันไม่สมเหตุสมผลใด ๆ เกี่ยวกับการเข้าและออกจากพื้นที่ที่บริษัทจัดไว้ให้ รวมทั้งหอพักหรือที่พักของแรงงานแล้วแต่กรณี ระหว่างกระบวนการจัดจ้าง แรงงานทั้งหมดจะต้องได้รับเอกสารข้อตกลงการจ้างงานในภาษาท้องถิ่นของตนระบุรายละเอียดข้อกำหนดและเงื่อนไขในการจ้างงาน แรงงานย้ายถิ่นฐานต่างด้าวจะต้องได้รับข้อตกลงในการจ้างงานก่อนที่แรงงานจะออกจากประเทศต้นทาง และจะต้องไม่มีการแทนที่หรือแก้ไขข้อตกลงการจ้างงานดังกล่าวเมื่อถึงปลายทางในประเทศผู้รับ ยกเว้นการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นไปเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายในพื้นที่ และเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันหรือเป็นเงื่อนไขที่ดีกว่าเดิม งานทั้งหมดจะต้องเป็นไปโดยสมัครใจและแรงงานจะต้องมีอิสระในการออกจากงานได้ทุกเมื่อหรือยกเลิกข้อตกลงการจ้างงานของตนเองได้เมื่อต้องการโดยไม่ถูกลงโทษใด ๆ ซึ่งต้องระบุไว้อย่างชัดเจนในสัญญาจ้างของแรงงาน นายจ้าง ตัวแทน และผู้แทนช่วงจะต้องไม่ยึดหน่วงหรือทำลาย ปกปิด หรือริบเอกสารระบุตัวตนหรือการย้ายถิ่นฐานใด ๆ เช่น เอกสารประจำตัวที่ออกโดยภาครัฐ หนังสือเดินทางหรือใบอนุญาตทำงาน นายจ้างสามารถยึดหน่วงเอกสารกำกับได้หากเป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด ในกรณีนี้ ห้ามปฏิเสธไม่ให้แรงงานเข้าถึงเอกสารของตนเอง แรงงานจะต้องไม่ถูกเรียกร้องให้จ่ายค่าธรรมเนียมการจัดหางานหรือค่าธรรมเนียมพิเศษอื่น ๆ ให้แก่นายจ้างหรือตัวแทนหรือผู้แทนช่วงสำหรับการจ้างงาน หากแรงงานเป็นผู้จ่าย่าธรรมเนียมดังกล่าว จะต้องมีการจ่ายคืนให้แก่แรงงานเหล่านี้

  2. แรงงานที่เป็นผู้เยาว์

    ห้ามใช้แรงงานเด็กในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต คำว่า “เด็ก” ในที่นี้หมายถึงบุคคลที่ถูกจ้างงานและมีอายุต่ำกว่า 15 ปีหรือในช่วงอายุซึ่งมีหน้าที่จะต้องเข้าศึกษาในหลักสูตรการศึกษาภาคบังคับ หรือผู้ที่มีอายุต่ำกว่าเกณฑ์การจ้างงานขั้นต่ำที่กำหนดในประเทศ พิจารณาตามเกณฑ์อายุที่มากกว่า Kingston จะนำกลไกที่เหมาะสมมาใช้ตรวจสอบอายุของแรงงาน

  3. ชั่วโมงทำงาน

    ชั่วโมงทำงานจะต้องไม่เกินเกณฑ์สูงสุดที่กฎหมายในพื้นที่กำหนด ทั้งนี้สัปดาห์ทำงานไม่ควรเกินกว่า 60 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยนับรวมการทำงานล่วงเวลา ยกเว้นในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือสถานการณ์พิเศษ การทำงานล่วงเวลาจะต้องเป็นการทำงานโดยสมัครใจ แรงงานจะต้องได้รับอนุญาตให้หยุดพักอย่างน้อยหนึ่งวันในทุก ๆ รอบเจ็ดวัน

  4. ค่าจ้างและสิทธิประโยชน์

    คค่าตอบแทนที่จ่ายให้แก่แรงงานควรเป็นไปตามกฎหมายค่าจ้างที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงกฎหมายเกี่ยวกับค่าจ้างขั้นต่ำ ชั่วโมงทำงานล่วงเวลาและสิทธิประโยชน์ที่กฎหมายบังคับ แรงงานทุกคนต้องได้รับค่าตอบแทนเท่าเทียมกันเมื่อทำงานแบบเดียวกันและมีคุณสมบัติเหมือนกัน เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขทางกฎหมายในพื้นที่ แรงงานจะต้องได้รับค่าล่วงเวลาในอัตราที่สูงกว่าค่าตอบแทนรายชั่วโมงตามปกติ ห้ามไม่ให้หักเงินจากค่าจ้างเพื่อเป็นการลงโทษ ในแต่ละรอบการจ่ายเงิน แรงงานจะต้องได้รับใบแสดงรายการค่าจ้างภายในเวลาที่เหมาะสมและในรูปแบบที่เข้าใจได้ ระบุข้อมูลต่าง ๆ อย่างเพียงพอเพื่อยืนยันว่ามีการจ่ายค่าตอบแทนที่ถูกต้องสำหรับงานที่ทำ การใช้แรงงานชั่วคราว แรงงานจ้างพิเศษและแรงงานจัดจ้างจะต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดของกฎหมายในพื้นที่

  5. การไม่เลือกปฏิบัติ/การปราศจากการล่วงละเมิด/การปฏิบัติต่อแรงงานอย่างมีมนุษยธรรม

    Kingston จะต้องให้ความสำคัญกับการปกป้องสถานที่ทำงานให้ปราศจากการถูกล่วงละเมิดหรือเลือกปฏิบัติที่เป็นการขัดต่อกฎหมายใด ๆ ห้ามปฏิบัติอย่างรุนแรงหรือไร้มนุษยธรรม รวมทั้งใช้ความรุนแรง คุกคามจากสาเหตุทางเพศ การล่วงละเมิดทางเพศ การคุกคามทางเพศ การทำร้ายร่างกาย การกดดันหรือการขู่บังคับ การกลั่นแกล้ง การทำให้อับอายหรือการดูหมิ่นคุกคามแรงงาน หรือการข่มขู่ว่าจะมีการดำเนินการดังกล่าวขึ้น ผู้ประกอบการจะต้องไม่ดำเนินการใด ๆ ที่เป็นการเลือกปฏิบัติหรือล่วงละเมิดเนื่องจากสาเหตุด้านเชื้อชาติ สีผิว เพศ รสนิยมทางเพศ อัตลักษณ์หรือการแสดงออกทางเพศ ถิ่นที่มาหรือถิ่นกำเนิด ความพิการ การตั้งครรภ์ ศาสนา การฝักใฝ่ทางการเมือง การเข้าร่วมกับสหภาพ สถานะการรับราชการทหารที่ได้รับความคุ้มครอง ข้อมูลด้านพันธุกรรมที่ได้รับความคุ้มครอง หรือสถานภาพการสมรสระหว่างการจ้างงาน เช่น ในส่วนที่เกี่ยวกับค่าจ้าง การเลื่อนตำแหน่ง รางวัลตอบแทนและการเข้าถึงการฝึกอบรมต่าง ๆ นโยบายและกระบวนการลงโทษเพื่อสนับสนุนเงื่อนไขเหล่านี้จะต้องมีระบุรายละเอียดไว้อย่างชัดเจนและแจ้งให้แรงงานทราบ แรงงานจะต้องได้รับการจัดพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับทำกิจกรรมด้านศาสนาและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้มีภาวะทุพพลภาพ นอกจากนี้ แรงงานหรือผู้ที่อาจเข้ามาปฏิบัติงานจะต้องไม่ถูกบังคับให้เข้ารับการตรวจทางการแพทย์หรือการตรวจร่างกาย การตรวจการตั้งครรภ์หรือการตรวจพรหมจรรย์ที่จะใช้เพื่อการเลือกปฏิบัติในลักษณะใด ๆ เงื่อนไขข้อนี้สอดคล้องกับ ILO Discrimination (Employment and Occupation) Convention (No. 111) (อนุสัญญาฯ ฉบับที่ 111 ว่าด้วยการเลือกปฏิบัติ (การจ้างงานและอาชีพ) ของ ILO)

  6. เสรีภาพในการสมาคมและการร่วมเจรจาต่อรอง

    การสื่อสารอย่างเปิดเผยและการร่วมมือกันโดยตรงระหว่างแรงงานกับฝ่ายบริหารเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสถานที่ทำงานและค่าตอบแทน แรงงานและ/หรือตัวแทนจะต้องสามารถสื่อสารหรือแบ่งปันเกี่ยวกับแนวคิดและข้อเสนอต่าง ๆ กับฝ่ายบริการเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมในการทำงาน และการบริหารจัดการโดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกเลือกปฏิบัติ ถูกตอบโต้ คุกคามหรือล่วงละเมิดใด ๆ   เพื่อให้เป็นไปตามหลักการเหล่านี้ Kingston เคารพในสิทธิ์ของแรงงานในการจัดตั้งและเข้าร่วมสหภาพการค้าที่ตนเองสมัครใจ เพื่อร่วมกันเจรจาต่อรองและเข้าร่วมกิจกรรมกันโดยสงบ รวมทั้งการเคารพในสิทธิ์ของพนักงานที่จะไม่เข้าร่วมในกิจกรรมเหล่านี้ ในกรณีที่เสรีภาพในการสมาคมและร่วมเจรจาต่อรองถูกจำกัดโดยกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง แรงงานสามารถเลือกและเข้าร่วมกับตัวแทนแรงงานรูปแบบอื่นที่ชอบด้วยกฎหมาย

B. สวัสดิภาพและความปลอดภัย

Kingston ตระหนักดีว่านอกเหนือจากการลดโอกาสที่จะเกิดการบาดเจ็บและเจ็บป่วยในที่ทำงาน สถาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพยังเป็นการยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ ทำให้การผลิตมีมาตรฐานเดียวกัน และช่วยในการรักษาขวัญกำลังใจและฐานกำลังพล Kingston ยังตระหนักดีว่าข้อเสนอแนะจากผู้ปฏิบัติงานและการให้ความรู้อย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยในการระบุและแก้ไขปัญหาด้านสวัสดิภาพและความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน ระบบการจัดการที่เป็นที่ยอมรับ เช่น ISO 45001 และ ILO Guidelines ด้านสวัสดิภาพและความปลอดภัยทางวิชาชีพคือเกณฑ์อ้างอิงในการจัดทำหลักเกณฑ์การดำเนินงานนี้และสามารถใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงเพิ่มเติม

มาตรฐานด้านสวัสดิภาพและความปลอดภัย:

  1. สวัสดิภาพและความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน

    สิ่งที่อาจเป็นอันตรายต่อสวัสดิภาพและความปลอดภัย (เช่น อันตรายจากสารเคมี ไฟฟ้า และแหล่งพลังงานแบบอื่น ๆ ไฟไหม้ ยานพาหนะ และอันตรายจากการตกจากที่สูง) ของแรงงาน จะต้องได้รับการระบุและประเมิน รวมทั้งบรรเทาความเสี่ยงโดยใช้โครงสร้างการกำกับดูแล ในกรณีที่ไม่สามารถควบคุมปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวได้โดยวิธีการเหล่านี้ แรงงานจะต้องได้รับอุปกรณ์ป้องกันตัวที่เหมาะสมที่มีการดูแลเป็นอย่างดี และได้รับข้อมูลที่เพียงพอเกี่ยวกับความเสี่ยงที่ตนเองอาจได้รับ ใช้มาตรการที่คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างหญิงชาย เช่น ไม่อนุญาตให้หญิงมีครรภ์และแม่ที่กำลังให้นมบุตรทำงานในสภาพที่อาจเป็นอันตรายต่อแรงงานหญิงเหล่านั้นและบุตร รวมทั้งจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่แม่ที่กำลังให้นมบุตร

  2. การเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน

    สถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นจะต้องมีการพิจารณาและประเมิน รวมทั้งหาทางปรับลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นโดยการวางแผนและกำหนดมาตรการจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ รวมไปถึงการแจ้งเหตุฉุกเฉิน การแจ้งข้อมูลให้กับพนักงาน และการอพยพผู้คน การฝึกอบรมแรงงานและการฝึกซ้อมสถานการณ์ฉุกเฉิน การฝึกซ้อมสถานการณ์ฉุกเฉินจะต้องจัดขึ้นอย่างน้อยปีละครั้งหรือตามที่กฎหมายในพื้นที่กำหนด พิจารณาตามเงื่อนไขที่เข้มงวดมากกว่า แผนฉุกเฉินจะต้องครอบคลุมการใช้อุปกรณ์ตรวจจับเปลวไฟและอุปกรณ์ดับเพลิง การฝึกซ้อมเส้นทางอพยพที่ชัดเจนและไม่มีสิ่งกีดขวาง การจัดสิ่งอำนวยความสะดวกในการอพยพที่เพียงพอ การจัดหาข้อมูลติดต่อหน่วยงานฉุกเฉินและแผนการฟื้นฟู แผนงานและกระบวนการเหล่านี้จะต้องให้ความสำคัญกับการลดอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับชีวิต สิ่งแวดล้อมและทรัพย์สิน

  3. การบาดเจ็บและเจ็บป่วยจากการทำงาน

    จะต้องมีการกำหนดกระบวนการและระบบเพื่อช่วยในการป้องกัน จัดการ ติดตามและแจ้งกรณีการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยจากการทำงานเพื่อส่งเสริมให้มีการแจ้งข้อมูลแก่แรงงาน เพื่อจำแนกประเภทและบันทึกกรณีการเจ็บป่วยและบาดเจ็บต่าง ๆ การจัดบริการด้านการแพทย์ตามความจำเป็น การตรวจสอบเหตุและการดำเนินการแก้ไขเพื่อขจัดสาเหตุเหล่านี้ และการอำนวยความสะดวกเพื่อให้พนักงานสามารถกลับเข้ามาปฏิบัติงานได้อีกครั้ง แรงงานสามารถถอนตัวออกมาจากสถานการณ์อันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ และไม่ต้องกลับเข้าไปจนกว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะบรรเทาลง โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกลงโทษ

  4. สุขอนามัยทางอุตสาหกรรม

    พิจารณาแรงงานที่อาจได้รับสารเคมี สารทางชีวภาพหรือสารใด ๆ รวมทั้งประเมินและกำหนดมาตรการควบคุมตามโครงสร้างการกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง หากคาดว่าอาจเกิดอันตรายใด ๆ ขึ้น Kingston จะต้องมองหาโอกาสต่าง ๆ ในการขจัดอันตรายและ/หรือลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้น หากไม่สามารถขจัดหรือลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ จะต้องมีมาตรการควบคุมอันตรายดังกล่าวผ่านการออกแบบที่เหมาะสม โครงสร้างทางวิศวกรรม และการจัดการที่ดี &bsp; หากไม่สามารถควบคุมปัจจัยเสี่ยงได้อย่างเพียงพอโดยวิธีเหล่านี้ แรงงานจะต้องได้รับอุปกรณ์ป้องกันตัวที่เหมาะสมที่ได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ แรงงานต้องทำงานในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและไม่ก่อให้เกิดอันตราย และสภาพแวดล้อมดังกล่าวต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมผ่านการตรวจสอบสวัสดิภาพและสภาพแวดล้อมการทำงานของแรงงานอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังต้องตรวจสอบสวัสดิภาพการทำงานเพื่อประเมินเป็นระยะว่าสุขภาพของแรงงานได้รับอันตรายจากปัจจัยเสี่ยงจากการทำงานหรือไม่ แผนการป้องกันสวัสดิภาพการทำงานจะต้องเป็นไปอย่างต่อเนื่องและครอบคลุมทั้งชุดข้อมูลเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงจากอันตรายในสถานที่ทำงานเหล่านี้

  5. งานที่ต้องใช้กำลังกายมาก

    แรงงานที่ต้องปฏิบัติงานที่ใช้แรงมาก รวมทั้งงานที่ต้องยกของหนักหรือต้องใช้ท่าเดิมซ้ำ ๆ กัน การยืนเป็นเวลานาน และงานที่ใช้ท่าซ้ำ ๆ หรืองานประกอบที่ต้องใช้แรงให้มีการพิจารณา ประเมินและกำกับดูแลอย่างเหมาะสม

  6. การป้องกันเครื่องจักร

    เครื่องจักรสำหรับการผลิตหรือเครื่องจักรอื่น ๆ จะต้องมีการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยต่าง ๆ อย่างรอบด้าน จะต้องมีการจัดหาแนวป้องกัน ตัวล็อคร่วมและแผงป้องกันใด ๆ และดูแลรักษาอย่างเหมาะสมในพื้นที่ที่มีเครื่องจักรและอาจทำให้แรงงานได้รับบาดเจ็บได้

  7. สุขอนามัย อาหาร และที่พัก

    แรงงานจะต้องมีห้องน้ำสะอาด น้ำดื่มและอาหารที่สะอาดจัดไว้ให้ รวมทั้งพื้นที่จัดเก็บวัสดุอุปกรณ์ อาหารและพื้นที่รับประทานอาหารที่ปลอดภัย ที่พักของแรงงานที่ Kingston หรือตัวแทนจัดหาแรงงานจัดไว้ให้จะต้องได้รับการดูแลให้สะอาดและปลอดภัย และมีทางออกฉุกเฉิน น้ำร้อนสำหรับอาบ แสงสว่าง ระบบความร้อนหรือระบบถ่ายเทอากาศที่เหมาะสม และมีการจัดที่พักที่เป็นส่วนตัวและมีความมั่นคงเพื่อใช้จัดเก็บข้าวของส่วนตัวหรือสิ่งมีค่า และมีพื้นที่ส่วนตัวตามความเหมาะสม รวมทั้งสิทธิ์ในการเข้าและออกพื้นที่

  8. การแจ้งข้อมูลด้านสวัสดิภาพและความปลอดภัย

    Kingston จะต้องแจ้งข้อมูลด้านสวัสดิภาพและความปลอดภัยในสถานที่ทำงานที่เหมาะสมให้แก่แรงงาน รวมทั้งการฝึกอบรมในภาษาที่แรงงานใช้ หรือในภาษาที่แรงงานเข้าใจได้สำหรับสถานที่ปฏิบัติงานที่กำหนด รวมทั้งอันตรายที่แรงงานอาจได้รับ หรือความเสี่ยงจากกลไก ระบบไฟฟ้า สารเคมี เพลิงไหม้และอันตรายทางกายภาพอื่น ๆ ข้อมูลเกี่ยวกับสวัสดิภาพและความปลอดภัยจะต้องมีแจ้งไว้ให้ชัดเจนในพื้นที่ หรือในสถานที่ที่แรงงานมองเห็นได้หรือสามารถเข้าถึงได้ การฝึกอบรมที่จัดให้แก่แรงงานก่อนเริ่มปฏิบัติงานและต่อเนื่องหลังจากเริ่มงานแล้ว แรงงานควรแจ้งข้อกังวลด้านสวัสดิภาพและความปลอดภัยโดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกตอบโต้

C. สิ่งแวดล้อม

Kingston ตระหนักดีถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมว่าคือสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพระดับโลก Kingston มีการพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ และพยายามลดผลกระทบเหล่านี้ที่จะเกิดขึ้นต่อชุมชน สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติภายในส่วนการผลิตของตน และพร้อมปกป้องสวัสดิภาพและความปลอดภัยของบุคคลทั่วไป ระบบการจัดการที่เป็นที่ยอมรับ เช่น ISO 14001 และ Eco Management and Audit System (EMAS) คือเกณฑ์อ้างอิงในการจัดทำหลักเกณฑ์การดำเนินงานนี้และสามารถใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงเพิ่มเติม

มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมประกอบไปด้วย:

  1. การขออนุญาตและการแจ้งข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม

    จะต้องมีการขออนุญาตด้านสิ่งแวดล้อมที่กำหนดทั้งหมด (เช่น การตรวจสอบการปล่อยหรือระบายของเสีย) รวมทั้งการขอการรับรอง การกำกับดูแลและการขึ้นทะเบียนที่เกี่ยวข้อง และมีการต่ออายุอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งกำหนดเงื่อนไขในการทำงานและแจ้งข้อมูลอย่างถูกต้อง

  2. การป้องกันมลพิษและการอนุรักษ์+ทรัพยากร

    การปล่อยไอเสียและมลพิษและการก่อของเสียคือเป้าหมายที่เราพยายามลดหรือขจัดออกไปให้ได้มากที่สุดตั้งแต่ต้นทาง หรือโดยการปรับวิธีการทำงาน เช่น การเพิ่มอุปกรณ์ควบคุมมลพิษ การปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต การดูแลรักษาและกระบวนการทำงานที่ส่วนปฏิบัติการ หรือโดยผ่านช่องทางอื่น ๆ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งน้ำ เชื้อเพลิงฟอสซิล แร่และผลิตภัณฑ์จากป่าที่ยังไม่เคยถูกบุกรุกทำลายจะต้องมีการใช้ในเชิงอนุรักษ์อย่างจริงจัง เช่น การปรับกระบวนการผลิต การดูแลรักษาและกระบวนการในส่วนปฏิบัติการ การพิจารณาวัสดุทดแทน หรือใช้ซ้ำ การอนุรักษ์ทรัพยากรหรือผ่านช่องทางอื่น ๆ

  3. สารอันตราย

    สารเคมี ของเสียและวัสดุที่อาจเป็นตรายต่อมนุษย์หรือสิ่งแวดล้อมจะต้องมีการระบุ ติดฉลากกำกับและจัดการเพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งในการจัดการ เคลื่อนย้าย จัดเก็บ ใช้งาน รีไซเคิลและใช้ซ้ำหรือในการกำจัดทิ้ง ข้อมูลของเสียอันตรายจะต้องมีการติดตามและบันทึกเป็นเอกสาร

  4. ของเสียประเภทของแข็ง

    Kingston ซัพพลายเออร์จะต้องกำหนดแนวทางที่เป็นระบบในการตรวจหา จัดการ ลด และกำจัดของเสียประเภทของแข็งหรือการรีไซเคิลของเสียประเภทของแข็ง (ที่ไม่ก่อให้เกิดอันตราย) ข้อมูลของเสียจะต้องมีการติดตามและบันทึกเป็นเอกสาร

  5. มลพิษทางอากาศ

    การปล่อยไอเสียประเภทสารอินทรีย์ระเหย สารสเปรย์ สารที่มีฤทธิ์กัดกร่อน อนุภาค สารทำลายโอโซนและผลพลอยได้ที่จุดติดไฟได้ที่เกิดจากการดำเนินงานจะต้องมีการแยกประเภท ติดตามอย่างต่อเนื่อง ควบคุมและบำบัดตามที่กำหนดก่อนปล่อยสู่ธรรมชาติ สารที่ทำลายชั้นโอโซนจะต้องมีการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพภายใต้พิธีสารมอนทรีออลและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง Kingston จะมีการตรวจสอบประสิทธิภาพของระบบควบคุมการปล่อยไอเสียในอากาศอย่างต่อเนื่อง

  6. ข้อจำกัดด้านวัสดุ

    Kingston พร้อมปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องและเงื่อนไขทั้งหมดของลูกค้าเกี่ยวกับข้อห้ามหรือข้อจำกัดในการใช้สารบางชนิดในผลิตภัณฑ์และในการผลิต รวมทั้งการติดฉลากเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการรีไซเคิลหรือกำจัดทิ้ง

  7. การจัดการน้ำ

    Kingston มีแผนการจัดการน้ำที่ระบุ แยกประเภทและเป็นการตรวจติดตามแหล่งน้ำ การใช้งานและการทิ้ง และหาโอกาสในการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ และแนวทางการควบคุมการปนเปื้อนต่าง ๆ น้ำเสียทั้งหมดจะต้องมีการแยกประเภท ติดตาม ควบคุมและบำบัดตามที่กำหนดก่อนระบายหรือกำจัดทิ้ง Kingston มีการตรวจสอบประสิทธิภาพของระบบบำบัดน้ำและระบบกักเก็บตลอดเวลาเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานและระเบียบข้อบังคับที่กำหนด

  8. การใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

    Kingston ตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วทั้งองค์กรและจัดทำรายงานการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว รวมทั้งติดตาม บันทึกข้อมูล และจัดทำรายงานสำหรับประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงานขององค์กรทั้งประเภทที่ 1, 2 และกิจกรรมทั้งหมดที่มีนัยสำคัญภายใต้ประเภทที่ 3 เราพิจารณาวิธีการปรับปรุงด้านการใช้พลังงานและเพื่อลดการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

D. จริยธรรม

เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและเพื่อให้เกิดความสำเร็จในพื้นที่ของเรา Kingston และตัวแทนของบริษัทจึงมีมาตรฐานจริยธรรมในการดำเนินงานระดับสูงสุด เช่น

  1. ความซื่อตรงในการดำเนินธุรกิจ

    จะต้องรักษามาตรฐานความซื่อตรงในการดำเนินงานในระดับสูงสุดสำหรับการติดต่อธุรกิจทุก ๆ ด้าน Kingston มีนโยบายไม่ยินยอมหรือห้ามไม่ให้มีการจ่ายสินบน การทุจริต การขู่กรรโชกหรือการยักยอกใด ๆ

  2. ห้ามแสวงหาความได้เปรียบที่ไม่เหมาะสม

    ห้ามให้สัญญา เสนอ รับรอง ให้หรือรับสินบนหรือการแสวงหาความได้เปรียบที่ไม่เหมาะสม ข้อห้ามนี้ครอบคลุมทั้งการให้คำมั่น การเสนอ การรับรอง การให้หรือการรับสิ่งมีมูลค่าใด ๆ ทั้งโดยตรงและโดยอ้อมผ่านบุคคลภายนอก เพื่อเรียกรับหรือรักษาผลประโยชน์ทางธุรกิจ สิทธิพิเศษทางธุรกิจโดยตรงกับบุคคลใด หรือเพื่อแสวงหาความได้เปรียบที่ไม่เหมาะสม จะต้องมีการตรวจติดตาม บันทึกข้อมูลและผลักดันการปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างจริงจังเพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขของกฎหมายต่อต้านการทุจริต

  3. การเปิดเผยข้อมูล

    การติดต่อทางธุรกิจทั้งหมดจะต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส โดย Kingston จะต้องมีสมุดบันทึกและระเบียนข้อมูลทางธุรกิจต่าง ๆ ที่ครอบคลุม ข้อมูลเกี่ยวกับแรงงานของ Kingston สวัสดิภาพและความปลอดภัย มาตรการด้านสิ่งแวดล้อม กิจกรรมทางธุรกิจ โครงสร้างการทำงาน สถานะและผลประกอบการทางการเงินจะมีแจ้งให้ทราบตามระเบียบข้อบังคับและมาตรการทางอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง การปลอมแปลงระเบียนข้อมูลหรือสำแดงข้อมูลอันเป็นเท็จเกี่ยวกับเครือข่ายการจัดหาถือเป็นข้อห้ามโดยเด็ดขาด

  4. ทรัพย์สินทางปัญญา

    สสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาคือสิ่งที่จะต้องให้ความสำคัญ การถ่ายโอนเทคโนโลยีและองค์ความรู้จะต้องคำนึงถึงสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาเป็นสำคัญ รวมทั้งมีการปกป้องข้อมูลของลูกค้าและซัพพลายเออร์อย่างเต็มที่

  5. การดำเนินธุรกิจ โฆษณาและแข่งขันอย่างเป็นธรรม

    มาตรฐานการดำเนินธุรกิจ การโฆษณาและการแข่งขันอย่างเป็นธรรมคือสิ่งที่จะต้องส่งเสริมอย่างจริงจัง

  6. การปกป้องข้อมูลระบุตัวตนและการไม่ตอบโต้

    แผนงานเพื่อกำกับดูแลการปกปิดข้อมูล ข้อมูลลับและการปกป้องซัพพลายเออร์และพนักงานผู้แจ้งเบาะแสจะต้องมีกำหนดไว้ เว้นเสียแต่มีข้อห้ามทางกฎหมาย ซัพพลายเออร์ควรมีกระบวนการที่แจ้งไว้ชัดเจนกับบุคลากรเพื่อให้บุคลากรสามารถแจ้งข้อกังวลต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกตอบโต้

    พนักงานของ Kingston และพนักงานของซัพพลายเออร์ของ Kingston สามารถแจ้งเหตุละเมิดจริยธรรมที่อาจเกิดขึ้นในทางลับ รวมทั้งข้อกังวลและข้อร้องเรียนต่าง ๆ ระหว่างพนักงานจากซัพพลายเออร์และ Kingston ได้ผ่านช่องทางต่อไปนี้

    ที่อยู่ทางไปรษณีย์ 17600 Newhope Street, Fountain Valley, CA 92708
    ที่อยู่อีเมล [email protected]
  7. การจัดหาแหล่งแร่อย่างมีความรับผิดชอบ

    Kingston มีนโยบายและกระบวนการตรวจสอบประวัติการดำเนินงานเพื่อพิจารณาที่มาและเครือข่ายการจัดหาแร่แทนทาลัม ดีบุก ทังสเตน ทองคำ และโคบอลต์ในผลิตภัณฑ์ที่ผลิต และจะมีการกำกับดูแลให้มีการจัดหาแร่เหล่านี้ภายใต้ Economic Co-operation and Development (OECD) Guidance for Responsible Supply Chains of Minerals from Conflict Affected and High-Risk Areas หรือกรอบการดำเนินการเพื่อตรวจสอบประวัติการดำเนินงานใด ๆ ที่เทียบเท่าและเป็นที่ยอมรับ

  8. ความเป็นส่วนตัว

    Kingston มุ่งมั่นปกป้องความเป็นส่วนตัวตามความเหมาะสมในส่วนของข้อมูลส่วนบุคคลของทุกคนที่ติดต่อธุรกิจด้วย ไม่ว่าจะเป็นซัพพลายเออร์ ลูกค้า ผู้บริโภคและพนักงาน Kingston ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับด้านความเป็นส่วนตัวหากมีการรวบรวม จัดเก็บ ประมวลผล ส่งต่อและแชร์ข้อมูลส่วนบุคคล

E. ระบบการจัดการ

ซัพพลายเออร์จะต้องปรับใช้หรือกำหนดระบบการจัดการสำหรับเนื้อหาที่เกี่ยวข้องภายใต้หลักเกณฑ์การดำเนินงานนี้ ระบบจัดการออกแบบมาเพื่อ: (ก) การควบคุมมาตรฐานตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับและเงื่อนไขของลูกค้าที่เกี่ยวกับการดำเนินงานของซัพพลายเออร์และผลิตภัณฑ์ (ข) การปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การดำเนินงานนี้และ (ค) การระบุและปรับความเสี่ยงในการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับหลักเกณฑ์การดำเนินงานนี้ นอกจากนนี้ยังควรมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการปรับปรุงกระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่อง

ระบบจัดการควรมีองค์ประกอบดังต่อไปนี้

  1. ปณิธานของบริษัท

    บริษัทได้จัดทำประกาศนโยบายเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน สวัสดิภาพและความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และจริยธรรมเพื่อยืนยันปณิธานของ Kingston เกี่ยวกับการตรวจสอบประวัติการดำเนินงานและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการรับรองจากผู้บริหาร ประกาศนโยบายจัดทำเป็นข้อมูลสาธาณะและแจ้งให้แรงงานทราบโดยทั่วกันผ่านทุกช่องทางที่เข้าถึงได้ง่าย โดยใช้ภาษาที่แรงงานเข้าใจ

  2. ความรับผิดชอบและการชี้แจงของฝ่ายบริหาร

    Kingston จะต้องระบุตัวผู้บริหารระดับสูงและผู้แทนของบริษัทที่รับผิดชอบในการกำกับดูแลระบบจัดการและแผนงานที่เกี่ยวข้อง การพิจารณาของระบบจัดการโดยฝ่ายบริหารระดับสูงเป็นระยะ ๆ

  3. เงื่อนไขทางกฎหมายและเงื่อนไขของลูกค้า

    กระบวนการเพื่อระบุ ติดตามและทำความเข้าใจเงื่อนไขทางกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องของลูกค้า รวมทั้งเงื่อนไขภายใต้หลักเกณฑ์การดำเนินงานนี้

  4. การประเมินและจัดการความเสี่ยง

    กระบวนการระบุความเสี่ยงด้านการปฏิบัติตามกฎหมาย สิ่งแวดล้อม สวัสดิภาพและความปลอดภัย และแนวทางปฏิบัติด้านแรงงานและจริยธรรม รวมทั้งความเสี่ยงเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่รุนแรง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของ Kingston การพิจารณานัยยะในเชิงสัมพัทธ์สำหรับปัจจัยเสี่ยงแต่ละข้อและการปรับใช้กระบวนการและมาตรการควบคุมทางกายภาพที่เหมาะสมเพื่อควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่พบและเพื่อให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ

  5. วัตถุประสงค์ด้านการปรับปรุงการทำงาน

    เอกสารระบุวัตถุประสงค์เชิงประสิทธิภาพ เป้าหมายและแผนการดำเนินงานเพื่อปรับปรุงผลการดำเนินงานในเชิงสังคม สิ่งแวดล้อม สวัสดิภาพและความปลอดภัยของ Kingston รวมทั้งการประเมินผลการดำเนินงานของเราเป็นระยะ ๆ ในการดำเนินการให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์เหล่านี้

  6. การฝึกอบรม

    แผนการฝึกอบรมผู้บังคับบัญชาและแรงงานเพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย กระบวนการและวัตถุประสงค์ด้านการปรับปรุงการทำงานของ Kingston และเพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขทางกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง

  7. การสื่อสาร

    กระบวนการสื่อสารข้อมูลที่ชัดเจนและครบถ้วนเกี่ยวกับนโยบายของ Kingston แนวปฏิบัติ ความคาดหวังและผลการทำงานของผู้ปฏิบัติงาน ซัพพลายเออร์และลูกค้า

  8. การมีส่วนร่วมของแรงงาน/ผู้เกี่ยวข้องและการเข้าถึงการเยียวยา

    กระบวนการสื่อสารกับแรงงาน ตัวแทนแรงงาน และผู้เกี่ยวข้องกลุ่มอื่นๆ แบบสองทางและต่อเนื่อง ในกรณีที่เกี่ยวข้องหรือจำเป็น โดยมีเป้าหมายเพื่อขอความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางและเงื่อนไขการดำเนินงานที่กำหนดโดยหลักเกณฑ์การดำเนินงานนี้และเพื่อส่งเสริมการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง แรงงานจะต้องมีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยและมีช่องทางสำหรับการร้องเรียนหรือแสดงความคิดเห็นโดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกตอบโต้

  9. การตรวจสอบภายในและการประเมิน

    การประเมินตนเองเป็นระยะ ๆ เพื่อให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ เนื้อหาในหลักเกณฑ์การดำเนินงานนี้ และเงื่อนไขตามสัญญาข้อตกลงกับลูกค้าเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

  10. กระบวนการแก้ไข

    กระบวนการเพื่อการแก้ไขข้อบกพร่องอย่างรวดเร็วตามผลการประเมินจากภายในและภายนอก ผลการตรวจสอบและการพิจารณาทบทวนที่เกี่ยวข้อง

  11. เอกสารกำกับและระเบียนข้อมูล

    การจัดทำและเก็บรักษาเอกสารและระเบียนข้อมูลเพื่อให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับและเงื่อนไขของบริษัท รวมทั้งมาตรการปกปิดข้อมูลที่เหมาะสมเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว

  12. ความรับผิดชอบของซัพพลายเออร์

    กระบวนการเพื่อแจ้งเงื่อนไขตามหลักเกณฑ์การดำเนินงานสำหรับซัพพลายเออร์และเพื่อติดตามการควบคุมมาตรฐานของซัพพลายเออร์ภายใต้หลักเกณฑ์การดำเนินงานนี้