support category ssd
SSD KC2000 (SKC2000)

SSD KC2000 NVMe PCIe - การสนับสนุน

วิดีโอ

How to Install an M.2 SSD in a Desktop PC 1:10

วิธีการติดตั้ง M.2 SSD ใน PC เดสก์ทอป

How to Install an M.2 SSD in a Laptop 1:29

วิธีการติดตั้ง M.2 SSD ในโน้ตบุ๊ก

คำถามที่พบบ่อย

ElectroStatic Discharge, ESD คือการถ่ายประจำของประจุไฟฟ้าสถิตสะสมทั่วไป ESD เป็นปัญหาที่จะต้องใส่ใจเนื่องจากเป็นสิ่งที่อาจทำความเสียหายหรือทำลายส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์หรือฮาร์ดแวร์ได้ เหมือนกับการถูเท้าบนพรมแล้วเตะโลหะเข้า ESD อาจเกิดขึ้นโดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องรู้สึกว่าถูกช็อต และจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีการดำเนินการใด ๆ ภายในคอมพิวเตอร์หรือชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์

วิธีป้องกัน ESD
วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกัน ESD คือใช้สายคล้องข้อมือป้องกัน ESD หรือพรมหรือโต๊ะกราวด์ เนื่องจากผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่มีอุปกรณ์เหล่านี้ เราจึงได้จัดทำคำแนะนำต่อไปนี้เพื่อช่วยในการลดปัญหาโอกาสการเกิด ESD ให้มากที่สุด

  • การยืน - แนะนำให้ยืนตลอดเวลาระหว่างดำเนินการกับคอมพิวเตอร์ การนั่งบนเก้าอี้มีโอกาสทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตได้มากกว่า
  • สายต่อ - นำสายต่อต่าง ๆ ออกจากด้านหลังคอมพิวเตอร์ (สายไฟ เมาส์ แป้นพิมพ์ ฯลฯ)
  • เสื้อผ้า - อย่าสวมเสื้อผ้าที่นำไฟฟ้ามาก เช่น เสื้อขนสัตว์
  • เครื่องประดับ - เพื่อลด ESD และป้องกันปัญหาอื่น ๆ แนะนำให้นำเครื่องประดับออก
  • สภาพอากาศ - ฝนฟ้าคะนองจะเพิ่มโอกาสในการเกิด ESD พยายามอย่าดำเนินการใด ๆ กับคอมพิวเตอร์ในช่วงฝนฟ้าคะนอง ยกเว้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แม้ในสภาพอากาศแห้ง อากาศก็อาจทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตทุกครั้งที่มีการไหลของกระแสอากาศ (ลม เครื่องปรับอากาศ พัดลม) ที่พัดผ่านพื้นผิวที่มีฉนวน ความชื้นสูงไม่ควรทำให้ประมาท ระมัดระวังปัญหาการสึกกร่อนกับส่วนต่อเชื่อมและหน้าสัมผัสทางไฟฟ้าต่าง ๆ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ESD และการปกป้องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของคุณได้จากไซต์ต่อไปนี้

ESD Association
https://www.esda.org

FAQ: KTC-Gen-ESD

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

คู่มือผู้ใช้งานสำหรับ Secure Erase ระบบ Linux

คู่มือชุดนี้แนะนำขั้นตอนในการลบข้อมูลจาก Kingston SSD ของคุณอย่างปลอดภัยผ่านชุดเครื่องมือสำหรับ Linux

กระบวนการลบข้อมูล SATA อย่างปลอดภัย

คำเตือน

อย่าลืมสำรองข้อมูลสำคัญ ๆ ก่อนดำเนินขั้นตอนนี้!

เงื่อนไขเบื้องต้น

  • คุณจะต้องมีสิทธิ์สั่งการระดับราก 
  • คุณจะต้องเชื่อมต่อ SSD กับเครื่องเป็นไดรฟ์สำรอง (non-OS) 
  • ติดตั้ง lsscsi และ hdparm ไว้ คุณอาจต้องทำการติดตั้งโดยใช้ตัวจัดการแพ็กเกจที่จัดมาให้กับอุปกรณ์ 
  •  ไดรฟ์จะต้องไม่ถูกล็อคไว้เพื่อความปลอดภัย 
  •  ไดรฟ์จะต้องไม่มีการป้องกันรหัสผ่านไว้

คำแนะนำ
1. ค้นหาชื่ออุปกรณ์ (/dev/sdX) ของไดรฟ์ที่ต้องการลบ:

# lsscsi

2. ระบบรักษาความปลอดภัยของไดรฟ์จะต้องไม่ถูกล็อคค้างอยู่:

# hdparm -I /dev/sdX | grep frozen

หากข้อมูลแจ้งว่า “frozen” (แทนที่จะเป็น “not frozen”) คุณจะไม่สามารถเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปได้ คุณจะต้องลองแก้ไขปัญหาการล็อคระบบรักษาความปลอดภัยตามหนึ่งในวิธีต่าง ๆ ต่อไปนี้

วิธีที่ 1:
ให้เครื่องเข้าสู่โหมดสลีป (ระงับการทำงานของ RAM) แล้วปลุกการทำงานขึ้นมาใหม่ สำหรับเครื่องส่วนใหญ่ คำสั่งในการระงับคือ:

# systemctl suspend

จากนั้นใช้คำสั่ง hdparm อีกครั้ง หากสำเร็จ จะมีข้อความแจ้งว่า "not frozen" (แทนคำว่า "frozen")

วิธีที่ 2:
เสียบต่อไดรฟ์ในขณะที่เครื่องทำงานอยู่ ทำได้โดยการถอดสายจ่ายไฟของ SATA จากไดรฟ์แล้วเสียบกลับเข้าไปขณะที่เครื่องทำงาน คุณอาจต้องเปิดใช้งานระบบ Hot Plug ใน BIOS เครื่องบางรุ่นเท่านั้นที่รองรับ Hot Plug

จากนั้นใช้คำสั่ง hdparm อีกครั้ง หากสำเร็จ จะมีข้อความแจ้งว่า "not frozen" (แทนคำว่า "frozen")

3. กำหนดรหัสผ่านผู้ใช้สำหรับไดรฟ์ รหัสผ่านจะเป็นอะไรก็ได้ ในกรณีนี้เราจะตั้งรหัสผ่านเป็น “p”:

# hdparm --security-set-pass p /dev/sdX

4. ส่งคำสั่ง secure erase ไปยังไดรฟ์โดยใช้รหัสผ่านเดียวกัน: 1234567890 - 1234567890 -

# hdparm --security-erase p /dev/sdX

คำสั่งนี้อาจใช้เวลาดำเนินการอยู่ครู่หนึ่ง รหัสผ่านสำหรับไดรฟ์จะถูกลบทิ้งเมื่อดำเนินการเสร็จสิ้น หากการลบข้อมูลแบบปลอดภัยขัดข้องหรือไม่สำเร็จ ระบบอาจล็อคเพื่อรักษาความปลอดภัยของไดรฟ์คุณ ในกรณีนี้คุณสามารถปิดระบบล็อคความปลอดภัยที่ค้างอยู่ผ่านคำสั่งต่อไปนี้แล้วลองทำการลบข้อมูลอย่างปลอดภัยใหม่อีกครั้ง:

# hdparm --security-disable p /dev/sdX
ตัวอย่างการลบข้อมูล SATA แบบปลอดภัย
SATA Secure Erase Example


กระบวนการลบข้อมูล NVMe อย่างปลอดภัย
คำเตือน

อย่าลืมสำรองข้อมูลสำคัญ ๆ ก่อนดำเนินขั้นตอนนี้!

เงื่อนไขเบื้องต้น

  • คุณจะต้องมีสิทธิ์สั่งการระดับราก 
  •  คุณจะต้องเชื่อมต่อ SSD กับเครื่องเป็นไดรฟ์สำรอง (non-OS) 
  • คุณจะต้องติดตั้ง nvme-cli ไว้ คุณอาจต้องทำการติดตั้งโดยใช้ตัวจัดการแพ็กเกจที่จัดมาให้กับอุปกรณ์ 
  •  ไดรฟ์จะต้องไม่มีการป้องกันรหัสผ่านไว้

คำแนะนำ

1. ค้นหาชื่ออุปกรณ์ (/dev/nvmeXn1) ของไดรฟ์ที่ต้องการลบ:

# nvme list

2. ใช้คำสั่ง format กับไดรฟ์ จากนี้เราจะตั้งค่าการลบข้อมูลแบบปลอดภัยเป็น 1 เพื่อแจ้งให้ทำการลบข้อมูลของผู้ใช้:

# nvme format /dev/nvmeXn1 --ses=1

คำสั่งนี้อาจใช้เวลาดำเนินการอยู่ครู่หนึ่ง

ตัวอย่างการลบข้อมูล NVMe แบบปลอดภัย
NVMe Secure Erase Example

FAQ: KSM-SE-LIX

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

This is common for storage drives, whether internal SSD or external USB storage, and is due to a variance in how flash memory vs spinning platter hard drive manufacturers calculate megabyte. Hard drive manufacturers calculate a megabyte (or 1,000x1,000 bytes) as 1,000KBs, whereas the binary calculation for flash-based storage is 1,024KBs.

Example: For a 1TB flash-based storage device, Windows will calculate it as having a capacity of 931.32GB. (1,000,000,000,000÷1,024÷1,024÷1,024=931.32GB).

Furthermore, Kingston reserves some of the listed capacity for formatting and other functions, and thus some of the listed capacity is not available for data storage.

FAQ: KFC-012611-GEN-09

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

Trim และ Garbage Collection คือเทคโนโลยีที่ SSD รุ่นใหม่ใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและความทนทานในการใช้งาน หากคุณใช้ SSD ใหม่ บล็อค NAND ทั้งหมดจะยังไม่มีข้อมูล ดังนั้น SSD จะสามารถเขียนข้อมูลใหม่ไปยังบล็อคเปล่าได้ในการทำงานหนึ่งครั้ง เมื่อผ่านไปบล็อคข้อมูลเปล่าก็จะถูกใช้งานและเก็บข้อมูลผู้ใช้ไว้ เพื่อเขียนข้อมูลใหม่ลงไปยังบล็อคที่ใช้งานแล้ว SSD จะต้องทำงานเป็นรอบการอ่าน-แก้ไข-เขียนข้อมูล รอบการอ่าน-แก้ไข-เขียนข้อมูลมีผลกระทบต่อ SSD โดยรวมเนื่องจากจะต้องทำงานถึงสามอย่างแทนที่จะเป็นเพียงอย่างเดียว รอบการอ่าน-แก้ไข-เขียนข้อมูลจะทำให้เกิดภาระอย่างมากต่อ SSD และความทนทานของไดร์ฟโดยรวม

Trim และ Garbage Collection จะทำงานประสานกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ SSD และความทนทานของไดร์ฟโดยการเพิ่มพื้นที่ให้แก่บล็อคข้อมูลที่ถูกใช้งานแล้ว Garbage Collection เป็นฟังก์ชั่นสำเร็จในระบบควบคุม SSD โดยจะรวบรวมข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในบล็อคที่ใช้งานแล้วเข้าด้วยกันเพื่อให้มีบล็อคเปล่าสำหรับใช้งาน กระบวนการนี้จะเกิดขึ้นอยู่เบื้องหลังและจัดการโดย SSD เองทั้งหมด
 อย่างไรก็ตาม SSD อาจไม่ทราบว่าบล็อคข้อมูลใดที่มีข้อมูลผู้ใช้และบล็อคข้อมูลใดที่มีข้อมูลที่ผู้ใช้ลบทิ้งไปแล้ว นี่เป็นจุดที่การทำงานแบบ Trim เข้ามาดูแล โดย Trim จะช่วยให้ระบบปฏิบัติการสามารถแจ้งกับ SSD ว่าข้อมูลใดที่ถูกลบเพื่อให้ SSD สามารถเพิ่มพื้นที่ให้กับบล็อคข้อมูลที่เคยถูกใช้งานก่อนหน้านี้
 ในการทำงานระบบปฏิบัติการและตัว SSD เองจะต้องรองรับฟังก์ชั่นนี้ด้วย ปัจจุบันระบบปฏิบัติการและ SSD รุ่นใหม่ ๆ จะรองรับ Trim แต่โครงร่างการทำงาน RAID ส่วนใหญ่ยังไม่รองรับ

Kingston SSD ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Garbage Collection และ Trim เพื่อรักษาประสิทธิภาพและความทนทานตลอดอายุการใช้งานของไดร์ฟ

เรียนรู้เพิ่มเติม

FAQ: KSD-011411-GEN-13

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

ความจุที่แจ้งสำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแฟลชบางตัวใช้สำหรับฟอร์แมตและฟังก์ชั่นอื่น ๆ จึงไม่สามารถใช้เพื่อเก็บข้อมูลได้ ดังนั้นคุณจึงไม่เห็นความจุทั้งหมด

ขณะผลิตสื่อบันทึกข้อมูลแฟลช บริษัทมีขั้นตอนมากมายเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์จะทำงานเชื่อถือได้ และรองรับอุปกรณ์โฮสต์ (คอมพิวเตอร์ กล้องดิจิตอล PDA ฯลฯ) ในการเรียกค้นเซลล์หน่วยความจำ เช่น เพื่อจัดเก็บและเรียกค้นข้อมูลในสื่อบันทึกข้อมูลแฟลช ขั้นตอนเหล่านี้เรียกว่า "การฟอร์แมต" ซึ่งต้องใช้เซลล์หน่วยความจำบางส่วนของตัวอุปกรณ์ ทำให้ความจุสำหรับจัดเก็บข้อมูลของผู้ใช้ปลายทางลดลง

การฟอร์แมตครอบคลุมกระบวนการต่อไปนี้

  1. การทดสอบเซลล์หน่วยความจำแต่ละส่วนในสื่อบันทึกข้อมูลแฟลช
  2. การระบุหาเซลล์ทั้งหมดที่มีปัญหา และดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีการเขียนข้อมูลหรืออ่านข้อมูลไปยังเซลล์ที่มีปัญหา
  3. การสงวนเซลล์บางส่วนเป็น "พื้นที่สำรอง" เซลล์หน่วยความจำแฟลชมีอายุการใช้งานยาวนานแต่ไม่ถาวร ด้วยเหตุนี้เซลล์บางส่วนจะถูกสงวนไว้เพื่อแทนที่เซลล์หน่วยความจำที่อาจเสียหายไปตามเวลา
  4. 4. การจัดทำ File Allocation Table (FAT) หรือไดเรคทอรี่อื่น ๆ เปิดใช้สื่อบันทึกข้อมูลแฟลชเพื่อจัดเก็บและเรียกค้นไฟล์ของลูกค้าอย่างสะดวกได้โดยจัดทำระบบการจัดการไฟล์เพื่อให้อุปกรณ์หรือคอมพิวเตอร์สามารถตรวจหาไฟล์ที่จัดเก็บไว้ในสื่อบันทึกข้อมูลแฟลช ระบบจัดการไฟล์ที่เป็นที่นิยมที่สุดสำหรับสื่อบันทึกข้อมูลแฟลชคือ File Allocation Table (FAT) ซึ่งใช้กับฮาร์ดไดร์ฟด้วยเช่นกัน
  5. 5. การสำรองเซลล์บางส่วนสำหรับใช้โดยส่วนควบคุมของสื่อบันทึกข้อมูลแฟลช เช่น เพื่อจัดเก็บอัพเดตเฟิร์มแวร์และข้อมูลเฉพาะอื่น ๆ ของส่วนควบคุม
  6. 6. การสงวนเซลล์บางส่วนสำหรับคุณสมบัติพิเศษ แล้วแต่กรณี เช่น การ์ด Secure Digital (SD) ต้องมีพื้นที่สงวนเพื่อรองรับการป้องกันการเขียนและระบบความปลอดภัยบางอย่าง

FAQ: KDT-010611-GEN-06

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

NVMe drives are plug and play with Windows 8 and above and Windows Server 2012R and above. Therefore, Kingston does not provide additional drivers. NVMe drives will also work with the latest versions of Linux. Please note: macOS is not supported.

FAQ: KSD-060117-NVME-01

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

ไดร์ฟ NVMe SSD ประสิทธิภาพสูงต้องมีอากาศไหลผ่านเพียงพอเพื่อรองรับแบนด์วิธและประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุด ระหว่างการทำงานอย่างหนักหรือการทดสอบเพื่อประเมินประสิทธิภาพ ไดร์ฟจะเกิดความร้อนและเฟิร์มแวร์ชุดควบคุมจะทำการลดความร้อนเพื่อรักษาอุณหภูมิการทำงานที่เหมาะสมและเพื่อให้ไดร์ฟทำงานได้อย่างสมบูรณ์โดยการจำกัดการทำงานให้ลดลง การทำงานจะมีประสิทธิภาพลดลงในกรณีเหล่านี้ SSD จึงต้องมีการหล่อเย็นที่เพียงพอและ/หรือสามารถเพิ่มความเร็วของพัดลมเพื่อระบายความร้อนและลดอุณหภูมิของไดร์ฟ 

หมายเหตุ: ฟังก์ชั่นการลดการทำงานเพื่อลดอุณหภูมิจะทำงานเมื่ออุณหภูมิจากระบบ SMART ขึ้นถึง 80°C

FAQ: KSD-060117-NVME-02

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

NVMe SSD ของเราใช้ไดร์เวอร์ NVMe ในตัวของระบบ Linux และ Microsoft ไดร์เวอร์ NVMe ในตัวของ Microsoft จะออกคำสั่งเขียน Forced Unit Access (FUA) IO และคำสั่งล้างข้อมูลไปยังอุปกรณ์ NVMe ที่มีแคชเขียนข้อมูลแบบเลือนหาย ซึ่งจะทำให้มีการข้ามการประเมินแคชการเขียนข้อมูลกับ SSD เป้าหมายโดยการบายพาสแคช DRAM และเขียนข้อมูลโดยตรงไปยัง NAND การทำงานดังกล่าวทำให้ประสิทธิภาพของ NVMe SSD ดูต่ำกว่าที่คาด เพื่อให้การทำงานเต็มประสิทธิภาพ คุณจะต้องปิดระบบล้างบัฟเฟอร์แคชที่ไดร์ฟเป้าหมายจาก Windows 


ขั้นตอนในการปิดระบบล้างบัฟเฟอร์แคชการเขียนข้อมูล 


1. เปิด Device Manager 


2. เลือก Disk Drives ขยายรายการ จากนั้นเลือกไดร์ฟเป้าหมาย 


3. คลิกขวาแล้วเลือก Properties 


4. เลือก “Turn off Windows write-cache buffer flushing on the device” 

a. หมายเหตุ: การปิดระบบล้างบัฟเฟอร์แคชการเขียนข้อมูลที่อุปกรณ์อาจทำให้ข้อมูลสูญหายระหว่างนำส่งและ/หรือความเสียหายของข้อมูลในกรณีที่ไฟดับ ปิดระบบนี้เฉพาะในกรณีที่คุณเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นเท่านั้น

เปรียบเทียบประสิทธิภาพในการทำงาน

FAQ: KSD-060117-KC1000-04

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

Kingston SSD Manager 1.1.2.6 ไม่มีการอัพเดตเฟิร์มแวร์สำหรับ NVME จนว่าจะปิดใช้งาน IEEE 1667 เพื่อให้สามารถอัพเดตเฟิร์มแวร์ คุณจะต้องทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

1. เริ่มจากสำรองข้อมูลของคุณไว้ล่วงหน้า
2. จากนั้นใช้เครื่องสำรองเพื่อเรียกใช้ REVERT ผ่าน PSID ที่ฉลากไดรฟ์ หมายเหตุ: ดำเนินขั้นตอน REVERT เพื่อลบข้อมูลทั้งหมดในไดรฟ์อย่างปลอดภัย
3. ปิดใช้งาน IEEE 1667
4. การอัพเดตเฟิร์มแวร์จะสามารถทำได้เมื่อทำการรีเฟรชหรือรีสตาร์ท KSM

FAQ: KSM-001125-001-01

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

เครื่องของคุณอาจมีการโหลดไดร์เวอร์ RST แทนที่จะเป็น Microsoft NVMe มีปัญหาด้านการรองรับการทำงานกับไดร์เวอร์ Intel RST ที่กระทบกับคำสั่งอัพเดตเฟิร์มแวร์ NVMe

FAQ: KSM-001125-002-01

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

เพื่อพิจารณาว่าไดร์เวอร์ NVMe ตัวใดที่ใช้งานอยู่ คุณสามารถเรียกใช้เครื่องมือเกณฑ์มาตรฐาน AS SSD แล้วเลือก Kingston NVMe SSD ของคุณจากเมนูดรอปดาวน์ดังกล่าว ระบบจะแจ้งไดร์เวอร์ที่ไดรฟ์ดังกล่าวใช้งานอยู่ หากไดร์เวอร์ที่ใช้คือ “iaStorAC” แสดงว่าไดรฟ์ของคุณกำลังใช้งานไดร์เวอร์ Intel อยู่ หากไดร์เวอร์ที่ใช้คือ “stornvme” แสดงว่าไดรฟ์ของคุณกำลังใช้งานไดร์เวอร์ Microsoft

FAQ: KSD-001525-001-00

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

โปรดระวัง! วิธีลัดต่อไปนี้จะส่งผลต่ออาร์เรย์ RST RAID และอาจทำให้ข้อมูลสูญหายได้ หากเครื่องของคุณมีอาร์เรย์ RST RAID ให้พิจารณาทางเลือกอื่น

ทางเลือกที่ 1: ปิดใช้งาน RST Control จาก BIOS

วิธีนี้จะต้องปรับค่า BIOS เพื่อเปิดหรือปิดใช้งาน RST Control และไม่สามารถทำได้กับทุกเครื่อง

หมายเหตุ: โปรดสำรองข้อมูลที่สำคัญทั้งหมดก่อนดำเนินการต่อ!

  1. รีสตาร์ทแล้วเข้าไปยัง BIOS เครื่อง
  2. ค้นหาการตั้งค่า RST Configuration จาก BIOS
  3. แก้ไข “RST Controlled” เป็น “Not RST Controlled”
  4. บันทึกแล้วออกจาก BIOS
  5. เปิด KSM แล้วอัพเดตเฟิร์มแวร์ของไดรฟ์

หลังจากทำตามขั้นตอนนี้แล้ว คุณสามารถเลือกสลับกลับไปที่ “RST Controlled” ได้ใน BIOS

ทางเลือกที่ 2: สลับจาก RAID เป็น AHCI ใน BIOS

วิธีการนี้ใช้เพื่อเปลี่ยนโหมดการจัดเก็บข้อมูลของเครื่องจาก RAID เป็น AHCI และควรจะใช้ได้กับทุกเครื่อง

หมายเหตุ: กรุณาสำรองข้อมูลที่สำคัญทั้งหมดก่อนดำเนินการต่อ!

  1. เปิด msconfig
  2. เลือกแท็บ Boot
  3. เลือก Safe boot (minimal)
  4. คลิก OK แล้วทำการรีสตาร์ท
  5. เมื่อเครื่องรีสตาร์ทให้ไปที่ BIOS เครื่อง
  6. เปลี่ยนโหมดการจัดเก็บข้อมูลจาก RAID เป็น AHCI
  7. บันทึกแล้วออกจาก BIOS
  8. รอให้ Windows บู๊ตใน Safe Mode
  9. เปิด msconfig
  10. เลือกแท็บ Boot
  11. ลบเครื่องหมายที่ Safe boot
  12. คลิก OK แล้วทำการรีสตาร์ท
  13. รอให้ Windows บู๊ตตามปกติ
  14. เปิด KSM แล้วอัพเดตเฟิร์มแวร์ของไดรฟ์

หลังจากทำตามขั้นตอนเหล่านี้ คุณจะสามารถสลับโหมดการจัดเก็บข้อมูลกลับเป็น RAID ได้จาก BIOS

FAQ: KSD-001525-001-01

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

ระหว่างการติดตั้ง OS ให้ไปที่ UTILITIES / TERMINAL

จากประเภทเครื่อง:

diskutil list

จากนั้นกด RETURN เลื่อนรายการขึ้นและยืนยันดิสก์ Kingston SSD (เช่น disk0, disk1 ฯลฯ)

จากนั้นพิมพ์:

diskutil mountDISK disk0 (หรือชื่อดิสก์ Kingston SSD ที่เกี่ยวข้อง)

จากนั้นกด RETURN จากนั้นข้อความจะแจ้งว่า "mounted successfully"

จากนั้นพิมพ์:

diskutil eraseDISK apfs YOURDRIVENAME disk0 (หรือชื่อดิสก์ Kingston SSD ที่เกี่ยวข้อง)

คำเตือน - ขั้นตอนนี้ (คำสั่ง eraseDISK) จะเป็นการลบข้อมูลทั้งหมดที่ไดรฟ์เป้าหมาย ตรวจสอบว่าคุณเลือกไดรฟ์ที่ต้องการลบข้อมูลก่อนดำเนินการต่อ

จากนั้นกด RETURN ข้อความ “successful” จะปรากฏขึ้น จากนั้นออกจากรายการและเข้าสู่ส่วนการติดตั้ง OS ตามปกติ

FAQ: KSD-092917-GEN-21

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

Still Need Assistance?

ติดต่อฝ่ายบริการทางเทคนิค

Monday-Friday 6 a.m.-6 p.m. PT

+1 (800)435-0640