DataTraveler Exodia Onyx - การสนับสนุน
ข้อมูลอ้างอิง
วิดีโอ
คำถามที่พบบ่อย
นี่เป็นเรื่องปกติสำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบแฟลช ทั้งในกรณีของ SSD แบบภายในและไดรฟ์ USB แบบต่อพ่วง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ผลิตหน่วยความจำแฟลชและผู้ผลิตฮาร์ดไดรฟ์แบบจานหมุนมีวิธีคำนวณเมกะไบต์ที่แตกต่างกัน ผู้ผลิตฮาร์ดไดรฟ์คำนวณเมกะไบต์ (หรือ 1,000x1,000 ไบต์) เป็น 1,000KB ส่วนอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบแฟลชคำนวณแบบไบนารีหรือก็คือ 1,024KB
ตัวอย่าง: สำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบแฟลช 1TB Windows จะคำนวณความจุเท่ากับ 931.32GB (1,000,000,000,000÷1,024÷1,024÷1,024=931.32GB)
นอกจากนี้ Kingston ยังกันพื้นที่หน่วยความจำบางส่วนไว้ใช้ในการฟอร์แมตและวัตถุประสงค์อย่างอื่น เช่น เฟิร์มแวร์และ/หรือข้อมูลเกี่ยวกับตัวควบคุม ดังนั้นพื้นที่ส่วนนี้จึงไม่สามารถใช้จัดเก็บข้อมูลได้
FAQ: KDT-010611-GEN-06
บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่
Windows อาจไม่รู้จักไฟล์ MacOS Extended หรือแบบมาตรฐาน แก้ไขโดยฟอร์แมตไดรฟ์ใน macOS ด้วย MacOS DOS หรือระบบไฟล์ exFAT เพื่อให้สามารถใช้ได้กับทั้งสองระบบ
คำเตือน: การฟอร์แมตเป็นการลบข้อมูลทั้งหมดใน DataTraveler สำรองข้อมูลของคุณก่อนดำเนินการต่อ
- เสียบ DataTraveler เข้ากับเครื่อง macOS จากนั้นรอจนกระทั่งเชื่อมต่อ
- คลิกที่ "GO" จากแถบเมนู
- ดับเบิลคลิกที่ Utilities (หากไม่พบ Utilities ให้ดับเบิลคลิกที่ Applications จากนั้นดับเบิลคลิกที่โฟลเดอร์ Utilities)
- ดับเบิลคลิกที่ไอคอน Disk Utility
- จากกล่องโต้ตอบ Disk Utility คลิกหนึ่งครั้งที่พาร์ติชั่นใช้งานของ Kingston DataTraveler
- หมายเหตุ: จะมีรายการสองชุดสำหรับ DataTraveler ชุดแรกเป็นพาร์ติชั่นใช้งานและชุดที่สองเป็นป้ายกำกับไดรฟ์
- คลิกแท็บลบด้านขวาของหน้าจอ
- ใช้ส่วนแสดงรายการ Volume Format เลือก "MS-DOS File System" หรือ "exFAT” จากรายการ
- คลิก Erase
อุปกรณ์บางตัว (เครื่องเล่น MP3 กรอบภาพดิจิตอล ฯลฯ) ไม่สามารถอ่านไฟล์ NFTS หรือ exFAT ได้
นอกจากนี้จะต้องอัปเดต Windows XP และ Vista เพื่อให้สามารถค้นข้อมูล exFAT ได้
FAQ: KDT-010611-GEN-18
บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่
เมื่อคุณลบไฟล์ออกจากไดรฟ์ขณะต่อไดรฟ์เข้ากับระบบ macOS ระบบ macOS จะสำรองไฟล์เหล่านั้นเอาไว้เพื่อให้คุณกู้คืนไฟล์กลับมาได้หากคุณเผลอลบโดยไม่ได้ตั้งใจ นอกจากนี้ ฟีเจอร์นี้ยังทำให้ macOS กันพื้นที่ส่วนหนึ่งในไดรฟ์เผื่อไว้ในกรณีที่คุณต้องการกู้ไฟล์ดังกล่าว ดังนั้น หากคุณต้องการพื้นที่ว่างในไดรฟ์กลับคืนมา คุณจะต้องลบไฟล์ในถังขยะ macOS ขณะที่เชื่อมต่อไดรฟ์เข้ากับคอมพิวเตอร์ macOS
หากไม่ได้ผล ให้ทำการฟอร์แมตอุปกรณ์ โปรดทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อฟอร์แมตไดรฟ์ของ Kingston
คำเตือน: การฟอร์แมตเป็นการลบข้อมูลทั้งหมดของคุณ กรุณาทำสำเนาข้อมูลไว้ก่อนดำเนินการใด ๆ
- ไปที่ Go > Applications > Utilities จากนั้นเปิด Disk Utility
- เลือกไดรฟ์จากแถบคำสั่งด้านซ้าย จากนั้นคลิก Erase ทางด้านขวา
- เลือก Volume Format เลือกระบบไฟล์ MS-DOS หรือ exFAT หากคุณวางแผนจะใช้ไดรฟ์กับ macOS และ Windows หากใช้เฉพาะในเครื่อง Mac ให้เลือก macOS Extended เป็น Volume Format
- คลิก Erase
FAQ: KDT-010611-GEN-04
บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่
แม้ว่าจะสามารถบู๊ตได้จาก DataTraveler แต่ไม่ใช่คุณสมบัติการทำงานที่ Kingston รองรับไดร์ฟเหล่านี้มีไว้เพื่อจัดเก็บข้อมูลเท่านั้น
FAQ: KTD-082913-GEN-27
บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่
ตัวอย่างปัจจัยที่ส่งผลให้อุปกรณ์ USB แบบต่อพ่วงมีอุณหภูมิสูงขึ้น
- วัสดุ: แฟลชไดรฟ์และรีดเดอร์โลหะมีความเป็นไปได้ว่าจะมีอุณหภูมิสูงกว่าแฟลชไดรฟ์ USB แบบอื่น ๆ ขณะใช้งาน เหตุผลเป็นเพราะโลหะดูดซับความร้อนได้มากกว่าวัสดุชนิดอื่น ๆ อย่างเช่นพลาสติก
- อุณหภูมิแวดล้อม: หากอุปกรณ์โฮสต์หรืออุณหภูมิแวดล้อมสูง การระบายความร้อนของไดรฟ์จะลดลง ดังนั้น ไดรฟ์ USB จะร้อนขึ้นเมื่อใช้งานสภาพแวดล้อมที่ร้อนหรือใช้ร่วมกับอุปกรณ์ที่มีอุณหภูมิสูง
- การถ่ายโอนไฟล์: การถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่หรือไฟล์จำนวนมากอาจทำให้ไดรฟ์มีอุณหภูมิสูงขึ้นได้เช่นกัน ไฟล์ขนาดใหญ่จะใช้เวลาถ่ายโอนนานกว่า ต้องใช้พลังงานมากกว่า จึงสร้างความร้อนมากกว่าด้วย นอกจากนี้ การถ่ายโอนไฟล์หลายไฟล์ติด ๆ กันจะให้ผลลัพธ์แบบเดียวกับการถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่ และทำให้ไดรฟ์มีอุณหภูมิสูงขึ้น ระหว่างการถ่ายโอนไฟล์ ภายในไดรฟ์จะร้อนขึ้น และไดรฟ์จะระบายความร้อนออกมาผ่านปลอกไดรฟ์
หลังจากถ่ายโอนไฟล์เสร็จ แนะนำให้รอ 30-60 วินาทีก่อนจะดึงไดรฟ์ USB ออกจากเครื่องโฮสต์ เพื่อให้มีเวลาเพียงพอในการระบายความร้อนของไดรฟ์ USB
FAQ: KTD-021211-GEN-01
บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่
นี่เป็นข้อจำกัดของระบบไฟล์แบบ FAT32 ซึ่งมีการจำกัดจำนวนไฟล์ที่เก็บไว้ในไดเรกทอรีหลัก (root) ของไดรฟ์ หากต้องการโอนข้อมูลมายังไดรฟ์นี้มากขึ้น คุณต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
ก) สร้างโฟลเดอร์ในไดเรกทอรีหลักของไดรฟ์ จากนั้นค่อยโอนข้อมูลทั้งหมดไปยังโฟลเดอร์ดังกล่าว หลังจากนั้น คุณจะสามารถโอนข้อมูลลงใน DataTraveler ได้มากขึ้น
B) โอนข้อมูลในไดรฟ์ไปยังสื่อจัดเก็บข้อมูลอื่นเพื่อสำรองข้อมูล จากนั้นฟอร์แม็ตไดรฟ์ด้วยระบบไฟล์ exFAT หลังจากนั้น คุณจะสามารถโอนข้อมูลลงใน DataTraveler ได้มากขึ้น
FAQ: KDT-010611-GEN-12
บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่
Windows อาจไม่รู้จักไฟล์ MacOS Extended หรือแบบมาตรฐาน แก้ไขโดยฟอร์แมตไดรฟ์ใน macOS ด้วย MacOS DOS หรือระบบไฟล์ exFAT เพื่อให้สามารถใช้ได้กับทั้งสองระบบ
คำเตือน: การฟอร์แมตเป็นการลบข้อมูลทั้งหมดใน DataTraveler สำรองข้อมูลของคุณก่อนดำเนินการต่อ
- เสียบ DataTraveler เข้ากับเครื่อง macOS จากนั้นรอจนกระทั่งเชื่อมต่อ
- คลิกที่ "GO" จากแถบเมนู
- ดับเบิลคลิกที่ Utilities (หากไม่พบ Utilities ให้ดับเบิลคลิกที่ Applications จากนั้นดับเบิลคลิกที่โฟลเดอร์ Utilities)
- ดับเบิลคลิกที่ไอคอน Disk Utility
- จากกล่องโต้ตอบ Disk Utility คลิกหนึ่งครั้งที่พาร์ติชั่นใช้งานของ Kingston DataTraveler
- หมายเหตุ: จะมีรายการสองชุดสำหรับ DataTraveler ชุดแรกเป็นพาร์ติชั่นใช้งานและชุดที่สองเป็นป้ายกำกับไดรฟ์
- คลิกแท็บลบด้านขวาของหน้าจอ
- ใช้ส่วนแสดงรายการ Volume Format เลือก "MS-DOS File System" หรือ "exFAT” จากรายการ
- คลิก Erase
อุปกรณ์บางตัว (เครื่องเล่น MP3 กรอบภาพดิจิตอล ฯลฯ) ไม่สามารถอ่านไฟล์ NFTS หรือ exFAT ได้
นอกจากนี้จะต้องอัปเดต Windows XP และ Vista เพื่อให้สามารถค้นข้อมูล exFAT ได้
FAQ: KDT-010611-GEN-18
บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่