EU GDPR
EU General Data Protection Regulation
EU General Data Protection Regulation
มีหลากหลายรุ่นตามความต้องการทั้งสำรองใช้งานส่วนตัว สำหรับองค์กรหรือภาครัฐ
แนวทางแก้ไข - กำหนดมาตรการป้องกันที่เหมาะสม มาตรฐานด้านเทคนิคและนโยบายต่าง ๆ เช่น การเข้ารหัสข้อมูลส่วนบุคคล/ข้อมูลระบุตัวบุคคล (PII) เพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการละเมิดมาตรฐาน (รายละเอียดเพิ่มเติม - แนวทางที่เหมาะสมเกี่ยวกับมาตรฐาน USB แบบเข้ารหัส)
ถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงข้อบังคับด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูลครั้งใหญ่ที่สุด
การแจ้งกรณีละเมิดข้อมูลจะต้องมีขึ้นภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากทราบเหตุละเมิดหากสามารถทำได้ ทั้งนี้ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องแจ้งกับ DPA หากไม่คาดว่าอาจกระทบสิทธิ์หรือเสรีภาพของบุคคลใด ๆ
เพิ่มความเข้มข้นของเงื่อนไขการให้ความยินยอม โดยบริษัทต่าง ๆ จะไม่สามารถใช้ข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เข้าใจได้ยากหรือเป็นภาษากฎหมายที่ซับซ้อน โดยการขอความยินยอมจะต้องแจ้งในรูปแบบที่เข้าถึงและเข้าใจได้ง่าย พร้อมแจ้งวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลร่วมกับการขอความยินยอมดังกล่าว
หรือสิทธิ์ในการลบข้อมูล สิทธิ์ที่จะถูกลืมเป็นของเจ้าของข้อมูลเพื่อแจ้งผู้กำกับดูแลข้อมูลให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของตน หยุดการเผยแพร่ข้อมูล และให้บุคคลภายนอกใด ๆ หยุดการประมวลผลข้อมูลดังกล่าว เงื่อนไขในการลบข้อมูลตามที่ระบุใน (มาตรา 17) ครอบคลุมข้อมูลที่ไม่อยู่ในวัตถุประสงค์การประมวลผลเดิมอีกต่อไป หรือข้อมูลที่ผู้ให้ข้อมูลเพิกถอนความยินยอม
สิทธิ์นี้กำหนดให้ผู้กำกับดูแลจะต้องเปรียบเทียบสิทธิ์ของเจ้าของข้อมูลกับ “ผลประโยชน์ต่อสาธารณะในการจัดหาข้อมูลดังกล่าว” เมื่อมีการพิจารณาการร้องขอข้อมูลดังกล่าว
ข้อมูลระบุตัวบุคคล (PII) หมายถึงข้อมูลที่ถูกจัดเก็บเกี่ยวกับประชากรของ EU ที่หากเปิดเผยแล้วอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้ที่ถูกละเมิดข้อมูลของตน PII อาจได้แก่ประวัติการแพทย์ ข้อมูลทางขีววิทยา หมายเลขหนังสือเดินทางและข้อมูลทางการเงินที่ระบุตัวตนได้ (PIFI) เช่น หมายเลขประกันสังคมหรือบัตรเครดิต ข้อมูลที่อาจไม่ถือเป็น PII ได้แก่ ชื่อและนามสกุลอาจถือเป็น PII หากเชื่อมโยงกับข้อมูลอื่น ๆ