support category ssd
M.2 SATA (SM2280S3G2)

ไดรฟ์ SSDNow M.2 SATA G2 - การสนับสนุน

วิดีโอ

How to Install an M.2 SSD in a Desktop PC 1:10

วิธีการติดตั้ง M.2 SSD ใน PC เดสก์ทอป

How to Install an M.2 SSD in a Laptop 1:29

วิธีการติดตั้ง M.2 SSD ในโน้ตบุ๊ก

คำถามที่พบบ่อย

M.2 เป็นฟอร์มแฟคเตอร์ทางกายภาพ SATA และ PCIe คืออินเทอร์เฟซสำหรับสื่อบันทึกข้อมูล ข้อแตกต่างหลัก ๆ คือประสิทธิภาพและโปรโตคอล (ภาษา) ที่ใช้โดย M.2 SSD

รายละเอียดทางเทคนิคของ M.2 ออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งอินเทอร์เฟซ SATA และ PCIe สำหรับ SSD M.2 SATA SSD จะใช้ชุดควบคุมเดียวกับที่ใช้ใน SATA SSD ขนาด 2.5 นิ้วในปัจจุบัน M.2 PCIe SSD จะใช้ชุดควบคุมที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับรองรับโปรโตคอล PCIe M.2 SSD รองรับโปรโตคอลเพียงแบบเดียว แต่เครื่องบางเครื่องอาจมีซ็อคเก็ต M.2 ที่รองรับทั้ง SATA หรือ PCIe

FAQ: KSD-004005-001-00

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

ElectroStatic Discharge, ESD คือการถ่ายประจำของประจุไฟฟ้าสถิตสะสมทั่วไป ESD เป็นปัญหาที่จะต้องใส่ใจเนื่องจากเป็นสิ่งที่อาจทำความเสียหายหรือทำลายส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์หรือฮาร์ดแวร์ได้ เหมือนกับการถูเท้าบนพรมแล้วเตะโลหะเข้า ESD อาจเกิดขึ้นโดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องรู้สึกว่าถูกช็อต และจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีการดำเนินการใด ๆ ภายในคอมพิวเตอร์หรือชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์

วิธีป้องกัน ESD
วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกัน ESD คือใช้สายคล้องข้อมือป้องกัน ESD หรือพรมหรือโต๊ะกราวด์ เนื่องจากผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่มีอุปกรณ์เหล่านี้ เราจึงได้จัดทำคำแนะนำต่อไปนี้เพื่อช่วยในการลดปัญหาโอกาสการเกิด ESD ให้มากที่สุด

  • การยืน - แนะนำให้ยืนตลอดเวลาระหว่างดำเนินการกับคอมพิวเตอร์ การนั่งบนเก้าอี้มีโอกาสทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตได้มากกว่า
  • สายต่อ - นำสายต่อต่าง ๆ ออกจากด้านหลังคอมพิวเตอร์ (สายไฟ เมาส์ แป้นพิมพ์ ฯลฯ)
  • เสื้อผ้า - อย่าสวมเสื้อผ้าที่นำไฟฟ้ามาก เช่น เสื้อขนสัตว์
  • เครื่องประดับ - เพื่อลด ESD และป้องกันปัญหาอื่น ๆ แนะนำให้นำเครื่องประดับออก
  • สภาพอากาศ - ฝนฟ้าคะนองจะเพิ่มโอกาสในการเกิด ESD พยายามอย่าดำเนินการใด ๆ กับคอมพิวเตอร์ในช่วงฝนฟ้าคะนอง ยกเว้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แม้ในสภาพอากาศแห้ง อากาศก็อาจทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตทุกครั้งที่มีการไหลของกระแสอากาศ (ลม เครื่องปรับอากาศ พัดลม) ที่พัดผ่านพื้นผิวที่มีฉนวน ความชื้นสูงไม่ควรทำให้ประมาท ระมัดระวังปัญหาการสึกกร่อนกับส่วนต่อเชื่อมและหน้าสัมผัสทางไฟฟ้าต่าง ๆ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ESD และการปกป้องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของคุณได้จากไซต์ต่อไปนี้

ESD Association
https://www.esda.org

FAQ: KTC-Gen-ESD

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

คู่มือผู้ใช้งานสำหรับ Secure Erase ระบบ Linux

คู่มือชุดนี้แนะนำขั้นตอนในการลบข้อมูลจาก Kingston SSD ของคุณอย่างปลอดภัยผ่านชุดเครื่องมือสำหรับ Linux

กระบวนการลบข้อมูล SATA อย่างปลอดภัย

คำเตือน

อย่าลืมสำรองข้อมูลสำคัญ ๆ ก่อนดำเนินขั้นตอนนี้!

เงื่อนไขเบื้องต้น

  • คุณจะต้องมีสิทธิ์สั่งการระดับราก 
  • คุณจะต้องเชื่อมต่อ SSD กับเครื่องเป็นไดรฟ์สำรอง (non-OS) 
  • ติดตั้ง lsscsi และ hdparm ไว้ คุณอาจต้องทำการติดตั้งโดยใช้ตัวจัดการแพ็กเกจที่จัดมาให้กับอุปกรณ์ 
  •  ไดรฟ์จะต้องไม่ถูกล็อคไว้เพื่อความปลอดภัย 
  •  ไดรฟ์จะต้องไม่มีการป้องกันรหัสผ่านไว้

คำแนะนำ
1. ค้นหาชื่ออุปกรณ์ (/dev/sdX) ของไดรฟ์ที่ต้องการลบ:

# lsscsi

2. ระบบรักษาความปลอดภัยของไดรฟ์จะต้องไม่ถูกล็อคค้างอยู่:

# hdparm -I /dev/sdX | grep frozen

หากข้อมูลแจ้งว่า “frozen” (แทนที่จะเป็น “not frozen”) คุณจะไม่สามารถเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปได้ คุณจะต้องลองแก้ไขปัญหาการล็อคระบบรักษาความปลอดภัยตามหนึ่งในวิธีต่าง ๆ ต่อไปนี้

วิธีที่ 1:
ให้เครื่องเข้าสู่โหมดสลีป (ระงับการทำงานของ RAM) แล้วปลุกการทำงานขึ้นมาใหม่ สำหรับเครื่องส่วนใหญ่ คำสั่งในการระงับคือ:

# systemctl suspend

จากนั้นใช้คำสั่ง hdparm อีกครั้ง หากสำเร็จ จะมีข้อความแจ้งว่า "not frozen" (แทนคำว่า "frozen")

วิธีที่ 2:
เสียบต่อไดรฟ์ในขณะที่เครื่องทำงานอยู่ ทำได้โดยการถอดสายจ่ายไฟของ SATA จากไดรฟ์แล้วเสียบกลับเข้าไปขณะที่เครื่องทำงาน คุณอาจต้องเปิดใช้งานระบบ Hot Plug ใน BIOS เครื่องบางรุ่นเท่านั้นที่รองรับ Hot Plug

จากนั้นใช้คำสั่ง hdparm อีกครั้ง หากสำเร็จ จะมีข้อความแจ้งว่า "not frozen" (แทนคำว่า "frozen")

3. กำหนดรหัสผ่านผู้ใช้สำหรับไดรฟ์ รหัสผ่านจะเป็นอะไรก็ได้ ในกรณีนี้เราจะตั้งรหัสผ่านเป็น “p”:

# hdparm --security-set-pass p /dev/sdX

4. ส่งคำสั่ง secure erase ไปยังไดรฟ์โดยใช้รหัสผ่านเดียวกัน: 1234567890 - 1234567890 -

# hdparm --security-erase p /dev/sdX

คำสั่งนี้อาจใช้เวลาดำเนินการอยู่ครู่หนึ่ง รหัสผ่านสำหรับไดรฟ์จะถูกลบทิ้งเมื่อดำเนินการเสร็จสิ้น หากการลบข้อมูลแบบปลอดภัยขัดข้องหรือไม่สำเร็จ ระบบอาจล็อคเพื่อรักษาความปลอดภัยของไดรฟ์คุณ ในกรณีนี้คุณสามารถปิดระบบล็อคความปลอดภัยที่ค้างอยู่ผ่านคำสั่งต่อไปนี้แล้วลองทำการลบข้อมูลอย่างปลอดภัยใหม่อีกครั้ง:

# hdparm --security-disable p /dev/sdX
ตัวอย่างการลบข้อมูล SATA แบบปลอดภัย
SATA Secure Erase Example


กระบวนการลบข้อมูล NVMe อย่างปลอดภัย
คำเตือน

อย่าลืมสำรองข้อมูลสำคัญ ๆ ก่อนดำเนินขั้นตอนนี้!

เงื่อนไขเบื้องต้น

  • คุณจะต้องมีสิทธิ์สั่งการระดับราก 
  •  คุณจะต้องเชื่อมต่อ SSD กับเครื่องเป็นไดรฟ์สำรอง (non-OS) 
  • คุณจะต้องติดตั้ง nvme-cli ไว้ คุณอาจต้องทำการติดตั้งโดยใช้ตัวจัดการแพ็กเกจที่จัดมาให้กับอุปกรณ์ 
  •  ไดรฟ์จะต้องไม่มีการป้องกันรหัสผ่านไว้

คำแนะนำ

1. ค้นหาชื่ออุปกรณ์ (/dev/nvmeXn1) ของไดรฟ์ที่ต้องการลบ:

# nvme list

2. ใช้คำสั่ง format กับไดรฟ์ จากนี้เราจะตั้งค่าการลบข้อมูลแบบปลอดภัยเป็น 1 เพื่อแจ้งให้ทำการลบข้อมูลของผู้ใช้:

# nvme format /dev/nvmeXn1 --ses=1

คำสั่งนี้อาจใช้เวลาดำเนินการอยู่ครู่หนึ่ง

ตัวอย่างการลบข้อมูล NVMe แบบปลอดภัย
NVMe Secure Erase Example

FAQ: KSM-SE-LIX

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

Trim และ Garbage Collection คือเทคโนโลยีที่ SSD รุ่นใหม่ใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและความทนทานในการใช้งาน หากคุณใช้ SSD ใหม่ บล็อค NAND ทั้งหมดจะยังไม่มีข้อมูล ดังนั้น SSD จะสามารถเขียนข้อมูลใหม่ไปยังบล็อคเปล่าได้ในการทำงานหนึ่งครั้ง เมื่อผ่านไปบล็อคข้อมูลเปล่าก็จะถูกใช้งานและเก็บข้อมูลผู้ใช้ไว้ เพื่อเขียนข้อมูลใหม่ลงไปยังบล็อคที่ใช้งานแล้ว SSD จะต้องทำงานเป็นรอบการอ่าน-แก้ไข-เขียนข้อมูล รอบการอ่าน-แก้ไข-เขียนข้อมูลมีผลกระทบต่อ SSD โดยรวมเนื่องจากจะต้องทำงานถึงสามอย่างแทนที่จะเป็นเพียงอย่างเดียว รอบการอ่าน-แก้ไข-เขียนข้อมูลจะทำให้เกิดภาระอย่างมากต่อ SSD และความทนทานของไดร์ฟโดยรวม

Trim และ Garbage Collection จะทำงานประสานกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ SSD และความทนทานของไดร์ฟโดยการเพิ่มพื้นที่ให้แก่บล็อคข้อมูลที่ถูกใช้งานแล้ว Garbage Collection เป็นฟังก์ชั่นสำเร็จในระบบควบคุม SSD โดยจะรวบรวมข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในบล็อคที่ใช้งานแล้วเข้าด้วยกันเพื่อให้มีบล็อคเปล่าสำหรับใช้งาน กระบวนการนี้จะเกิดขึ้นอยู่เบื้องหลังและจัดการโดย SSD เองทั้งหมด
 อย่างไรก็ตาม SSD อาจไม่ทราบว่าบล็อคข้อมูลใดที่มีข้อมูลผู้ใช้และบล็อคข้อมูลใดที่มีข้อมูลที่ผู้ใช้ลบทิ้งไปแล้ว นี่เป็นจุดที่การทำงานแบบ Trim เข้ามาดูแล โดย Trim จะช่วยให้ระบบปฏิบัติการสามารถแจ้งกับ SSD ว่าข้อมูลใดที่ถูกลบเพื่อให้ SSD สามารถเพิ่มพื้นที่ให้กับบล็อคข้อมูลที่เคยถูกใช้งานก่อนหน้านี้
 ในการทำงานระบบปฏิบัติการและตัว SSD เองจะต้องรองรับฟังก์ชั่นนี้ด้วย ปัจจุบันระบบปฏิบัติการและ SSD รุ่นใหม่ ๆ จะรองรับ Trim แต่โครงร่างการทำงาน RAID ส่วนใหญ่ยังไม่รองรับ

Kingston SSD ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Garbage Collection และ Trim เพื่อรักษาประสิทธิภาพและความทนทานตลอดอายุการใช้งานของไดร์ฟ

เรียนรู้เพิ่มเติม

FAQ: KSD-011411-GEN-13

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

ความจุที่แจ้งสำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแฟลชบางตัวใช้สำหรับฟอร์แมตและฟังก์ชั่นอื่น ๆ จึงไม่สามารถใช้เพื่อเก็บข้อมูลได้ ดังนั้นคุณจึงไม่เห็นความจุทั้งหมด

ขณะผลิตสื่อบันทึกข้อมูลแฟลช บริษัทมีขั้นตอนมากมายเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์จะทำงานเชื่อถือได้ และรองรับอุปกรณ์โฮสต์ (คอมพิวเตอร์ กล้องดิจิตอล PDA ฯลฯ) ในการเรียกค้นเซลล์หน่วยความจำ เช่น เพื่อจัดเก็บและเรียกค้นข้อมูลในสื่อบันทึกข้อมูลแฟลช ขั้นตอนเหล่านี้เรียกว่า "การฟอร์แมต" ซึ่งต้องใช้เซลล์หน่วยความจำบางส่วนของตัวอุปกรณ์ ทำให้ความจุสำหรับจัดเก็บข้อมูลของผู้ใช้ปลายทางลดลง

การฟอร์แมตครอบคลุมกระบวนการต่อไปนี้

  1. การทดสอบเซลล์หน่วยความจำแต่ละส่วนในสื่อบันทึกข้อมูลแฟลช
  2. การระบุหาเซลล์ทั้งหมดที่มีปัญหา และดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีการเขียนข้อมูลหรืออ่านข้อมูลไปยังเซลล์ที่มีปัญหา
  3. การสงวนเซลล์บางส่วนเป็น "พื้นที่สำรอง" เซลล์หน่วยความจำแฟลชมีอายุการใช้งานยาวนานแต่ไม่ถาวร ด้วยเหตุนี้เซลล์บางส่วนจะถูกสงวนไว้เพื่อแทนที่เซลล์หน่วยความจำที่อาจเสียหายไปตามเวลา
  4. 4. การจัดทำ File Allocation Table (FAT) หรือไดเรคทอรี่อื่น ๆ เปิดใช้สื่อบันทึกข้อมูลแฟลชเพื่อจัดเก็บและเรียกค้นไฟล์ของลูกค้าอย่างสะดวกได้โดยจัดทำระบบการจัดการไฟล์เพื่อให้อุปกรณ์หรือคอมพิวเตอร์สามารถตรวจหาไฟล์ที่จัดเก็บไว้ในสื่อบันทึกข้อมูลแฟลช ระบบจัดการไฟล์ที่เป็นที่นิยมที่สุดสำหรับสื่อบันทึกข้อมูลแฟลชคือ File Allocation Table (FAT) ซึ่งใช้กับฮาร์ดไดร์ฟด้วยเช่นกัน
  5. 5. การสำรองเซลล์บางส่วนสำหรับใช้โดยส่วนควบคุมของสื่อบันทึกข้อมูลแฟลช เช่น เพื่อจัดเก็บอัพเดตเฟิร์มแวร์และข้อมูลเฉพาะอื่น ๆ ของส่วนควบคุม
  6. 6. การสงวนเซลล์บางส่วนสำหรับคุณสมบัติพิเศษ แล้วแต่กรณี เช่น การ์ด Secure Digital (SD) ต้องมีพื้นที่สงวนเพื่อรองรับการป้องกันการเขียนและระบบความปลอดภัยบางอย่าง

FAQ: KDT-010611-GEN-06

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

มีหัวต่อสามแบบที่ใช้กับอุปกรณ์ M.2: B, M และ B+M ไดรฟ์ของเรามีร่องบากสำหรับรองรับการเชื่อมต่อแบบ B+M แนวคีย์ B+M มีขึ้นเพื่อให้รองรับการทำงานได้อย่างครอบคลุมสำหรับเมนบอร์ดรุ่นต่าง ๆ หากมีโปรโตคอล SSD สำหรับใช้งาน (SATA หรือ PCIe) ขั้วต่อโฮสต์ของเมนบอร์ดบางตัวอาจออกแบบมาเฉพาะสำหรับ SSD คีย์ตัว M ในขณะที่รุ่นอื่น ๆ อาจออกแบบมารองรับ SSD คีย์ตัว B คีย์ตัว B+M ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหานี้

FAQ: KSD-061614-M2-01

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

ไดรฟ์ Kingston M.2 SATA อาจยาวกว่าเคสเครื่องของคุณ อุปกรณ์เหล่านี้มีจำหน่ายหลายช่วงความยาวส่วนใหญ่จะมีขนาด 2230, 2242, 2260, 2280 และ 22110 เลข 2 ตัวแรกเป็นความกว้าง (22 มม. ทั้งหมด) เลขที่เหลือเป็นความยาวจาก 30 - 110 มม. เครื่องของคุณจะต้องรองรับขนาด 2280 (80 มม.) หรือยาวกว่านี้เพื่อติดตั้งไดรฟ์ M.2 SATA ตัวนี้

FAQ: KSD-061614-M2-02

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

พบว่าประสิทธิภาพลดลงในไดร์ฟ SSDNow บางรุ่น หากคุรมีไดร์ฟ SSD รุ่นเก่าที่ไม่มี Garbage Collection ประสิทธิภาพของไดร์ฟ SSD จะลดลงไปตามเวลา ทั้งนี้เนื่องจากระบบจะเขียนทับข้อมูลที่ทำหมายเหตุกำกับสำหรับการลบไว้

ลองใช้เครื่องมือ Secure Erase อย่าง HDDErase เพื่อล้างข้อมูลไดร์ฟและกู้คืนการทำงานสู่สถานะเริ่มต้น

FAQ: KSD-011411-GEN-12

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

ไดร์ฟ SSD ทุกตัวของเราสามารถใช้งานใน RAID ได้ ทั้งนี้เนื่องจากข้อจำกัดด้านความทนทาน เฉพาะอุปกรณ์บางรุ่นเท่านั้นที่ควรใช้ใน RAID หรับเซิร์ฟเวอร์ กรุณาติดต่อ Kingston เพื่อพิจารณาไดร์ฟ Kingston SSD ที่เหมาะกับรูปแบบการใช้งานของคุณ

FAQ: KSD-052511-GEN-17

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

ระบบตรวจสอบตนเอง วิเคราะห์และแจ้งข้อมูล (S.M.A.R.T.) เป็นระบบตรวจสอบการทำงานในตัวของฮาร์ดไดร์ฟและ SSD ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบความสมบูรณ์ของอุปกรณ์ได้ ซึ่งทำได้โดยอาศัยซอฟต์แวร์ตรวจสอบการทำงานที่พัฒนาขึ้นมาเฉพาะสำหรับ S.M.A.R.T. ไดร์ฟ SSDNow ทั้งหมดของเรารองรับระบบ S.M.A.R.T.

FAQ: KSD-011411-GEN-10

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

In Windows - Open the control panel, open administrative tools and then open computer management. Click on Disk Management and see if the SSD drive is seen in the right window pane. If it is, right click on where it is labeled as disk 1, disk 2, etc and select "Initialize disk" (this may come up automatically when you go to Disk Management). Next, right-click on the area to the right of the disk label and choose "New Simple Volume". Continue with the wizard by choosing the size, drive letter and formatting of the partition.

In macOS - A "disk insertion" window will appear. Click on the "initialize" button. This will take you to the disk utility. Select the Kingston drive from the list of drives on the left side of the Window. From the actions available, choose partition. For the "Volume Scheme", choose "1 partition". For the format, choose MacOS extended for a permanent drive. Choose ExFAT for an external drive (available on MacOS 10.6.6 and above). Click Apply. A warning windows will appear stating you will erase all data from the drive. Click on the partition button at the bottom.

FAQ: KSD-060314-GEN-14

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

Kingston ตระหนักดีถึงความสำคัญในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าไว้เป็นอย่างลับอย่างปลอดภัย Kingston กำหนดมาตรการไว้ชัดเจนเพื่อให้ความมั่นใจเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าทั้งหมดหลังจากมีการส่งคืนไดร์ฟ Solid State (SSD) ให้แก่ส่วนปฏิบัติการ RMA ของเราเพื่อเปลี่ยนหรือซ่อมแซมผลิตภัณฑ์ตามการรับประกัน ในกรณีที่ SSD ส่งถึงศูนย์ซ่อมของบริษัท อุปกรณ์จะต้องผ่านขั้นตอนการทดสอบอย่างละเอียด ระหว่างการทดสอบช่วงแรก ขั้นตอน ATA Secure Erase จะถูกดำเนินการกับ SSD เพื่อลบข้อมูลทั้งหมด ATA Secure Erase เป็นระบบที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลกลางโดย National Institute of Standards and Technology (NIST 800-88) ในการล้างข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ภายใต้กรอบของกฎหมาย หาก SSD ไม่สามารถใช้การได้ และไม่สามารถผ่านขั้นตอน ATA Secure Erase ตัว SSD จะถูกแยกส่วนประกอบ โดยหน่วยความจำแฟลช NAND จะถูกทำลายทิ้ง

FAQ: KSD-022411-GEN-15

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

SSD ไม่ต้องจัดเรียงข้อมูล เนื่องจากไม่มีดิสก์ทางกายภาพเป็นส่วนประกอบ จึงไม่จำเป็นต้องจัดเรียงข้อมูลเพื่อลดเวลาในการค้นหา การจัดเรียงข้อมูล SSD จึงไม่เกิดประโยชน์อะไร นอกจากนี้การจัดเรียงข้อมูล SSD ยังอาจทำให้ไดร์ฟเกิดการสึกหรอในบางส่วนโดยไม่จำเป็น SSD ได้รับการออกแบบมาให้สามารถเขียนข้อมูลกระจายทั่วถึงกันกับไดร์ฟทั้งหมด เพื่อลดการสึกหรอที่ส่วนหนึ่งส่วนใดของไดร์ฟเป็นการเฉพาะ ทั้งนี้การจัดเรียงข้อมูลไดร์ฟ SSD ครั้งหรือสองครั้งไม่ทำให้ไดร์ฟเกิดความเสียหายแต่อย่างใด ทั้งนี้หากมีการจัดเรียงข้อมูลเป็นประจำเป็นเวลานาน อายุการใช้งานของไดร์ฟอาจลดลง

FAQ: KSD-011411-GEN-03

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

เริ่มจากเปิดหน้าต่าง Elevated Command Prompt

การเปิดหน้าต่าง Elevated Command Prompt: คลิก Start Orb > พิมพ์ "CMD.exe" จากช่อง Search > คลิกขวาที่ "CMD" จากนั้นเลือก "Run as Administrator" (หากได้รับข้อความยืนยันให้กด YES)

ตรวจสอบว่าเปิดใช้คำสั่ง TRIM อยู่หรือไม่โดยพิมพ์ข้อความต่อไปนี้แล้วกด Enter จากคำสั่ง Elevated:

fsutil behavior query disabledeletenotify

ผลลัพธ์จะเป็นไปตามนี้:DisableDeleteNotify = 1 (ปิดคำสั่ง Windows TRIM)DisableDeleteNotify = 0 (เปิดคำสั่ง Windows TRIM)

เปิดใช้คำสั่ง TRIM โดยพิมพ์ข้อความต่อไปนี้จากนั้นกด Enter จากคำสั่ง Elevated:

fsutil behavior set disabledeletenotify 0

ปิดคำสั่ง TRIM โดยพิมพ์ข้อความต่อไปนี้จากนั้นกด Enter จากคำสั่ง Elevated:

fsutil behavior set disabledeletenotify 1

FAQ: KSD-072211-GEN-18

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

Windows Experience Index (WEI) ตรวจวัดเฉพาะประสิทธิภาพของส่วนประกอบเท่านั้น WEI จะทำงานในช่วงสั้น ๆ และไม่สามารถตรวจวัดประสิทธิภาพในการทำงานของส่วนประกอบภายใต้โหลดของซอฟต์แวร์ แต่จะตรวจสอบได้เฉพาะลักษณะทั่วไปหรือฮาร์ดแวร์เท่านั้น ดังนั้น WEI จะไม่ตรวจวัดประสิทธิภาพของเครื่อง แต่ตรวจวัดเฉพาะประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ที่เกี่ยวข้องในกรณีที่ใช้ Windows 7 ดูบทความเกี่ยวกับ WEI ได้ที่นี่: http://blogs.msdn.com/b/e7/archive/2009/01/19/engineering-the-windows-7-windows-experience-index.aspx

สำหรับ Vista ระบบ WEI จะกำหนดเกณฑ์คะแนนจาก 1.0 ถึง 5.9 สำหรับ Windows 7 ระดับคะแนนจะเพิ่มขึ้นไปถึง 7.9

FAQ: KSD-011411-GEN-08

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

หาก SSD ถูกตรวจพบใน BIOS แต่ส่วนการติดตั้งของ Windows 7 ไม่พบไดร์ฟ:
ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

ปลดฮาร์ดไดร์ฟหรือ SSD ตัวอื่น บู๊ตดิสก์ติดตั้ง Windows 7 เลือก repair ตามด้วย advanced และ command prompt พิมพ์: "diskpart" โดยไม่มีอัญประกาศ จากนั้นกด Enter คุณจะพบระบบแจ้งว่า "diskpart" พิมพ์คำสั่งต่อไปนี้จากนั้นกด Enter สำหรับแต่ละคำสั่ง

Diskpart > Select Disk 0
Diskpart > Clean
Diskpart > Create Partition Primary Align=1024
Diskpart > Format Quick FS=NTFS
Diskpart > List Partition
Diskpart > Active
Diskpart > Exit

จากนั้นรีบู๊ตคอมพิวเตอร์ไปที่ดิสก์ติดตั้ง Windows 7

FAQ: KSD-100214-GEN-20

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

ระหว่างการติดตั้ง OS ให้ไปที่ UTILITIES / TERMINAL

จากประเภทเครื่อง:

diskutil list

จากนั้นกด RETURN เลื่อนรายการขึ้นและยืนยันดิสก์ Kingston SSD (เช่น disk0, disk1 ฯลฯ)

จากนั้นพิมพ์:

diskutil mountDISK disk0 (หรือชื่อดิสก์ Kingston SSD ที่เกี่ยวข้อง)

จากนั้นกด RETURN จากนั้นข้อความจะแจ้งว่า "mounted successfully"

จากนั้นพิมพ์:

diskutil eraseDISK apfs YOURDRIVENAME disk0 (หรือชื่อดิสก์ Kingston SSD ที่เกี่ยวข้อง)

คำเตือน - ขั้นตอนนี้ (คำสั่ง eraseDISK) จะเป็นการลบข้อมูลทั้งหมดที่ไดรฟ์เป้าหมาย ตรวจสอบว่าคุณเลือกไดรฟ์ที่ต้องการลบข้อมูลก่อนดำเนินการต่อ

จากนั้นกด RETURN ข้อความ “successful” จะปรากฏขึ้น จากนั้นออกจากรายการและเข้าสู่ส่วนการติดตั้ง OS ตามปกติ

FAQ: KSD-092917-GEN-21

บริการนี้เป็นประโยชน์หรือไม่

Still Need Assistance?