คำแถลงเกี่ยวกับแรงงานทาสยุคใหม่
รอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2024
Kingston Technology Company, Inc. และส่วนปฏิบัติการของบริษัททั่วโลก (ต่อจากนี้จะเรียกรวมกันว่า “Kingston”) เป็นบริษัทในสหรัฐฯ ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์หน่วยความจำ Kingston มีโรงงานผลิตอยู่ทั่วโลกและมีการดำเนินธุรกิจในตลาดทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ เราจึงไม่เพียงให้คำมั่นเท่านั้น แต่ยังมุ่งมั่นส่งเสริมสิทธิมนุษยชนทั่วโลกอีกด้วย บริษัทไม่ยินยอมให้มีการใช้แรงงานทาสยุคใหม่ทุกรูปแบบ ซึ่งรวมถึงแรงงานภาคบังคับ แรงงานกำหนดเงื่อนไขผูกมัด (เช่น จากมูลหนี้) หรือแรงงานขัดหนี้ แรงงานจากผู้ต้องขังโดยไม่สมัครใจหรือเพื่อแสวงประโยชน์ แรงงานทาสหรือการซื้อขายแรงงานอย่างผิดกฎหมายใด ๆ โดยซัพพลายเออร์ของ Kingston หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด
ความมุ่งมั่นของ Kingston ในการห้ามการใช้แรงงานทาสยุคใหม่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่ใหญ่กว่าในการปรับมาตรฐานของ Kingston ให้สอดคล้องกับค่านิยมหลักของเราอย่างส่งเสริมความซื่อสัตย์ทางธุรกิจและการดำเนินการอย่างมีจริยธรรม และความโปร่งใสและความรับผิดชอบในห่วงโซ่อุปทาน เราให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และในการผลักดันให้ชุมชนและผู้คนที่ได้รับบริการจากบริษัทรวมถึงพนักงานของบริษัทได้มีส่วนร่วมกับสิ่งดี ๆ อย่างจริงจัง เรามุ่งมั่นเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ผ่านธุรกิจและห่วงโซ่อุปทานที่เคารพในสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีของแรงงาน และพร้อมปฏิบัติตามกฎหมายที่ระบุห้ามการใช้แรงงานทาสยุคใหม่ในส่วนปฏิบัติการของ Kingston โดยตรงและในห่วงโซ่อุปทาน
โครงสร้างการทำงาน ธุรกิจ และห่วงโซ่อุปทาน
Kingston คือผู้ผลิตระดับแถวหน้าของโลกด้านหน่วยความจำและสื่อบันทึกข้อมูล Kingston มีพนักงานกว่า 2,800 คน ดำเนินงานสำนักงานภูมิภาค 18 แห่งทั่วโลก และมีการจัดจำหน่ายในกว่า 175 พื้นที่ เพื่อให้บริการเครือข่ายผู้จัดจำหน่าย ผู้ค้าปลีกรายย่อย ร้านค้า และลูกค้า OEM ทั่วโลก ลูกค้าของเราประกอบด้วยธุรกิจทุกขนาด ผู้บริโภคกลุ่มเทคโนโลยี และเรายังมีเครือข่ายพันธมิตรในช่องทางจัดจำหน่ายอีกมากมาย เราจัดหาผลิตภัณฑ์ให้แก่ศูนย์ข้อมูลระดับสูงสุด ผู้ให้บริการคลาวด์และผู้ผลิต PC รวมไปถึงบริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ สำหรับอุปกรณ์อัจฉริยะ ในฐานะส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของเราในการตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้าทั่วโลก เรายังให้บริการการผลิตตามสัญญาและการจัดการห่วงโซ่อุปทานสำหรับพาร์ทเนอร์ของเราเพื่อส่งมอบโซลูชันที่ปรับแต่งตามความต้องการของพวกเขา โดยรวมแล้ว Kingston ผลิตโมดูลที่ปรับแต่งมากกว่าสิบเจ็ดล้านชิ้นต่อเดือนสำหรับลูกค้าของเรา
Kingston ทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์อย่างน้อย 150 รายทั่วโลกที่สนับสนุนธุรกิจและการดำเนินงานของเรา รวมถึงการผลิตฮาร์ดแวร์และการให้บริการขยายของเรา ด้วยเหตุนี้ Kingston จึงมีมาตรการเพื่อกำกับดูแลให้แน่ใจว่าซัพพลายเออร์ของเราจะมีนโยบายและแนวปฏิบัติที่ชัดเจนในการป้องกันไม่ให้เกิดการใช้แรงงานทาสยุคใหม่ขึ้นในห่วงโซ่อุปทาน ความพยายามของเราในการต่อต้านการค้าทาสยุคใหม่ทำให้เราต้องพึ่งพาความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับซัพพลายเออร์ที่ผลิตและให้บริการในนามของเรา ขอบเขตของซัพพลายเออร์ของเราครอบคลุมตั้งแต่ซัพพลายเออร์โดยตรงไปจนถึงระดับวัตถุดิบ ลำดับความสำคัญในการตรวจสอบซัพพลายเออร์ปัจจุบันของ Kingston รวมถึงซัพพลายเออร์ทางตรง แม้ว่าเราจะยังคงรวบรวมข้อมูลตลอดห่วงโซ่อุปทาน
การจัดการภายใน ภาระรับผิดชอบ และแผนงานต่าง ๆ
พนักงานของ Kingston ทั่วโลกต่างทุ่มเทในการทำงานภายใต้จริยธรรมอันดี และเคารพในสิทธิแรงงานและสิทธิมนุษยชน สวัสดิภาพและความปลอดภัยของพนักงานและการทำงาน รวมทั้งตระหนักถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและพร้อมสนับสนุนชมชนของเราเพื่อเป้าหมายที่ดี ฝ่ายบริหารระดับสูง ผู้บริหารองค์กร และพนักงานของ Kingston ทุกคนต่างร่วมมือเพื่อป้องกันการใช้แรงงานทาสยุคใหม่ และพิจารณาแนวทางปรับปรุงแผนงานภายในของเราอย่างต่อเนื่อง
Kingston มีการประเมินความเสี่ยง CSR ประจำปีเพื่อพิจารณาปัจจัยเสี่ยงในกระบวนการของเราและในการติดต่อธุรกิจของบริษัท แผนประเมินความเสี่ยง CSR พัฒนาขึ้นภายใต้จรรยาบรรณทางธุรกิจของ Kingston และมาตรฐาน RBA รวมทั้งเงื่อนไขทางกฎหมายของรัฐบาลกลางและท้องถิ่นที่กำหนดภายในประเทศหรือภูมิภาค ข้อมูลการประเมินความเสี่ยง CSR จะถูกพิจารณาอย่างเหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่าจะเกิดความเสี่ยงน้อยที่สุดในกระบวนการภายในของบริษัท
Kingston เชื่อมั่นว่าความรับผิดชอบของเราในการตรวจสอบประวัติการดำเนินงานเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ความโปร่งใส ปณิธานของเราด้านความรับผิดชอบต่อสังคม รวมทั้งความพยายามต่อต้านการใช้แรงงานทาสยุคใหม่สามารถพิสูจน์ได้จากรายงานประจำปีด้านความยั่งยืนของเรารายงานด้านความยั่งยืนอ้างอิงกับมาตรฐาน GRI โดยระบุข้อมูลการปฏิบัติการต่าง ๆ ของ Kingston ในฐานะองค์กรไว้โดยละเอียด Kingston มีภาระรับผิดชอบในการแจ้งข้อมูลอย่างโปร่งใส่ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Kingston ในการป้องกันการใช้แรงงานทาสยุคใหม่
นโยบายเกี่ยวกับจริยธรรมในการทำงานและการป้องกันการใช้แรงงานทาสยุคใหม่
Kingston มีจรรยาบรรณทางธุรกิจที่กำหนดความคาดหวังสำหรับพนักงานของ Kingston และซัพพลายเออร์ของเราไว้ จรรยาบรรณทางธุรกิจของ Kingston กำหนดนโยบายที่คาดหวังเพื่อปกป้องสวัสดิภาพ ความปลอดภัยและการปฏิบัติต่อแรงงานอย่างมีจริยธรรม โดยระบุห้ามไม่ให้มีการใช้แรงงานทาสยุคใหม่ทุก ๆ รูปแบบ นอกเหนือจากพนักงานของเราแล้ว ผู้รับเหมาและซัพพลายเออร์ก็ถูกคาดหวังให้ปฏิบัติตามหลักจรรยาบรรณของเราเช่นกัน เพื่อจัดการกับฝ่ายใดก็ตามที่ไม่สามารถปฏิบัติตามความคาดหวังของ Kingston ในเรื่องการค้าทาสยุคใหม่ Kingston มีกลไกความรับผิดชอบและการร้องทุกข์ซึ่งมีให้ทั้งพนักงานและบุคคลภายนอก Kingston จะมีการตรวจสอบเหตุที่แจ้งเกี่ยวกับการซื้อขายแรงงานที่ผิดกฎหมายหรือการใช้แรงงานทาสในธุรกิจของตนหรือในห่วงโซ่อุปทาน และดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อแก้ไขปัญหาที่พบ ทั้งนี้ยังไม่มีการแจ้งเหตุในลักษณะนี้ระหว่างรอบปีบัญชีที่ผ่านมา
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ หลักจรรยาบรรณของ Kingston
ความมุ่งมั่นของ Kingston เกี่ยวกับการลดความเสี่ยงจากการใช้แรงงานทาสยุคใหม่ผ่านกระบวนการตรวจสอบประวัติการทำงาน และการบริหารจัดการซัพพลายเออร์
วิธีหนึ่งที่ Kingston ใช้ในการตรวจสอบคือวิธีการตรวจสอบผ่านเครือข่ายความร่วมมือที่เก่าแก่ของเรากับ Responsible Business Alliance (RBA). ในฐานะสมาชิกของ RBA เรามุ่งมั่นในการปรับประสานนโยบายและการทำงานของเราตามข้อกำหนดใน จรรยาบรรณทางธุรกิจของ RBA และเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนซัพพลายเออร์และผู้รับเหมาช่วงของเราให้ทำเช่นเดียวกัน สมาชิกของ RBA จะต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการต่อต้านการใช้แรงงานทาสยุคใหม่
การเป็นสมาชิก RBA นั้น นอกจากจะหมายความว่า Kingston มีความน่าเชื่อถือเนื่องจากผ่านการตรวจสอบโดยสมาชิก RBA รายอื่น ๆ แล้ว เรายังสามารถขอให้ RBA ตรวจสอบซัพพลายเออร์ของบริษัทเราได้ด้วย การตรวจสอบของ RBA ดำเนินการโดยหน่วยงานภายนอกที่ผ่านการรับรองจาก RBA และมีขึ้นเพื่อประเมินนโยบายและหลักการทำงานของซัพพลายเออร์ในส่วนของความเสี่ยงและการควบคุมการใช้แรงงานทาสยุคใหม่ ระบบจัดการของตน และการกำกับดูแลซัพพลายเออร์ของตน
การตรวจสอบซัพพลายเออร์ของ Kingston ช่วยเพิ่มความตระหนักรู้และความทุ่มเทเพื่อลดความเสี่ยงจากการใช้แรงงานทาสยุคใหม่ในห่วงโซ่อุปทานของเรา การตรวจสอบซัพพลายเออร์จะมีขึ้นโดย Kingston ภายใต้แนวทางการตรวจสอบของ RBA และเป็นไปตามโครงสร้างการแก้ไขและติดตามผลของ RBA การตรวจสอบเพื่อติดตามผลจะมีขึ้นเพื่อพิจารณาแนวทางแก้ไขต่าง ๆ และเพื่อช่วยให้สามารถขอคำชี้แจงจากซัพพลายเออร์และเกิดการปรับปรุงการทำงานอย่างต่อเนื่องในส่วนการทำงานเพื่อป้องปรามการใช้แรงงานทาสยุคใหม่ เมื่อปี 2024 มีการตรวจสอบซัพพลายเออร์ขึ้น 8 ราย
นอกจากนี้ Kingston ขอให้ซัพพลายเออร์กรอกแบบสอบถามการประเมินตนเองประจำปี (SAQ) เกี่ยวกับสภาพการทำงานและโปรแกรม CSR ของพวกเขา SAQ ช่วยให้เราสามารถระบุสัญญาณเตือนเกี่ยวกับแรงงานที่อาจกระทบต่อการตัดสินใจของเราในการร่วมงานต่อหรือในการปรับความสัมพันธ์ในปัจจุบันที่มีกับซัพพลายเออร์ เมื่อปี 2024 มีการประเมินซัพพลายเออร์ตามหลักเกณฑ์ทางสังคมถึง 240 ครั้ง แบบสอบถามเหล่านี้รวมถึงเกณฑ์ต่างๆ เช่น สถานที่ตั้ง สินค้า/บริการที่จัดหา กลุ่มแรงงานที่เปราะบาง และขั้นตอนของห่วงโซ่อุปทาน
Kingston กำหนดและดำเนินแผนงานควบคุมการใช้แร่จากพื้นที่ที่มีความขัดแย้งภายใต้ปณิธานของเราเพื่อช่วยในการต่อต้านการใช้แรงงานทาสยุคใหม่ Kingston เป็นสมาชิกของ Responsible Minerals Initiative (RMI) ซึ่งมีแผนงานต่าง ๆ กำหนดไว้สำหรับจัดการกับปัญหาแรงงานทาสยุคใหม่และการใช้แรงงานเด็ก การเป็นสมาชิกของ RMI ช่วยให้ Kingston สามารถจัดการและดูแลเครือข่ายการจัดหาที่ไม่ได้เลือกใช้แร่มีค่า (เช่น ดีบุก ทังสเตน แทนทาลัม ทองคำและโคบอลท์) จากเหมืองที่มีการใช้แรงงานทาสยุคใหม่หรือแรงงานเด็ก ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมแร่ธาตุจากพื้นที่ความขัดแย้งของ Kingston สามารถดูได้ในรายงานแร่ธาตุเพื่อความรับผิดชอบประจำปี
การฝึกอบรม
Kingston ไม่เคยหยุดยั้งในการพัฒนาและจัดการฝึกอบรมด้าน CSR ให้กับไซต์งานของบริษัทในระดับภูมิภาค การอบรมนี้จะครอบคลุมถึงหลักจรรยาบรรณของ Kingston ซึ่งเป็นการตอกย้ำความคาดหวังว่าพนักงานของเรา และแรงงานหรือซัพพลายเออร์อื่น ๆ จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขทางกฎหมายและแจ้งข้อกังวลเกี่ยวกับการทำผิดกฎหมายหรือจรรยาบรรณในการทำงาน
ฝ่ายบริหารระดับสูง ผู้บริหารองค์กร และพนักงานที่มีหน้าที่โดยตรงในการจัดการห่วงโซ่อุปทานในสายการผลิตที่สำคัญ ๆ ของเราจะได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ทั่วไปภายใต้กฎหมาย UK Modern Slavery Act เพื่อให้สามารถระบุสัญญาณเตือนของการใช้แรงงานทาสรูปแบบใหม่ภายในห่วงโซ่อุปทานของเรา ปัจจุบันเรายังมีการปรับปรุงแผนการฝึกอบรมนี้อย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องกับไซต์งานของเราแต่ละแห่งทั่วโลก
การประเมินและแจ้งข้อมูลเชิงประสิทธิภาพ
Kingston กำหนดตารางเวลาและดำเนินการตรวจสอบซัพพลายเออร์และสถานประกอบการของพวกเขาด้วยตนเอง การตรวจสอบเหล่านี้ครอบคลุมทั้งการเยี่ยมชมสถานที่อย่างรอบด้าน การพูดคุยกับฝ่ายบริหาร การสัมภาษณ์แรงงานภาคสนาม การพิจารณาทบทวนเอกสาร และการประเมินประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น บ้านพัก โรงอาหาร โรงบำบัดน้ำเสียและคลังสินค้า กระบวนการตรวจสอบออกแบบมาเพื่อประเมินผลการดำเนินงานของซัพพลายเออร์ในประเด็นภายใต้จรรยาบรรณทางธุรกิจของเรา รวมทั้งความเสี่ยงจากการใช้แรงงานทาสยุคใหม่
ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น ข้อมูลจากการตรวจสอบของ RBA และ Kingston จะมีการติดตามผลอย่างใกล้ชิดเพื่อให้แน่ใจว่าการแก้ไขจะเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ
การแจ้งข้อกังวลและปัญหาเกี่ยวกับการใช้แรงงานทาสยุคใหม่
ไซต์งานในระดับภูมิภาคของ Kingston แต่ละแห่งจะมีนโยบายการแจ้งเบาะแสที่ใช้งานเพื่อรองรับการแจ้งเหตุสำหรับพนักงานและแรงงานไม่ประจำ เครื่องมือการรายงานถูกทำให้เข้าถึงได้ในหลายภาษาเพื่อเป็นตัวเลือกในการรายงานข้อกังวลโดยไม่ระบุตัวตน และได้รับการส่งเสริมผ่านนโยบายภายใน การสื่อสาร และการฝึกอบรม เครื่องมือเหล่านี้ขยายไปยังซัพพลายเออร์เช่นกันผ่านหลักจรรยาบรรณ ของ Kingston จรรยาบรรณทางธุรกิจของเรายังห้ามไม่ให้มีการตอบโต้หรือกลั่นแกล้งผู้ที่แจ้งข้อกังวล
หากมีการแจ้งข้อกังวลเกี่ยวกับการใช้แรงงานทาสยุคใหม่ผ่านช่องทางการแจ้งเหตุของเรา Kingston จะมีการประสานกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตามความเหมาะสมเพื่อให้ตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ตามที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ การดำเนินการใด ๆ อาจนำไปสู่การลดหรือระงับความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับซัพพลายเออร์หรือการยกเลิกความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับซัพพลายเออร์ การแจ้งเหตุภายในอาจทำให้มีการลงโทษวินัยตามสมควร หรือเลิกจ้างผู้กระทำผิด
การรับรอง
คำแถลงเกี่ยวกับการใช้แรงงานทาสยุคใหม่นี้ ได้รับอนุมัติจากรองประธานฝ่ายบริหารของ Kingston Technology Company, Inc. และได้รับการรับรองจากคณะกรรมการบริหารของ Kingston Technology Europe Co LLP และ Kingston Digital Europe Co LLP
คำแถลงนี้จัดทำขึ้นภายใต้เงื่อนไขของกฎหมาย UK Modern Slavery Act และถือเป็นการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมาย California Transparency in Supply Chains Act (SB 657) และ Australia Modern Slavery Act
Larry Gonzales
รองประธานฝ่ายบริหาร
วันที่: 25 มิถุนายน 2025