ทิ้งแล้วเปลี่ยนใหม่เทียบกับการคาดการณ์การใช้งาน: ทำไม SSD ที่มีค่าหน่วงเวลาที่คาดการณ์ได้จึงมีความสำคัญ

คนส่วนใหญ่คงคุ้นเคยกับคำว่า “จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ” ซึ่งก็สอดรับกับรูปแบบการทำงานและศูนย์ข้อมูลหลาย ๆ กรณีในปัจจุบัน ส่วนการทำงานที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดในโลกปัจจุบันเริ่มต้นจากชิ้นส่วนภายในของเซิร์ฟเวอร์ส่วนบุคคลขนาดเล็ก

ผู้ประกอบการและผู้ให้บริการมากมายเริ่มต้นจากการพัฒนาต้นแบบเซิร์ฟเวอร์ใช้งานภายในที่ติดตั้งส่วนประกอบแบบสำเร็จรูปเพื่อลดค่าใช้จ่ายในเบื้องต้น เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนจากผลิตภัณฑ์ต้นแบบสู่สายการผลิตจริงได้อย่างรวดเร็ว หลายครั้งคือการเลือกใช้ SSD สำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่มีราคาถูกในการจัดหาและเปลี่ยนใหม่

นี่เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับส่วนการทำงานที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานแบบไม่ต่อเนื่อง แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากแอพเป็นที่นิยมมากขึ้นและถูกใช้งานอยู่ตลอดเวลา ในความเป็นจริง หากคุณใช้บริการศูนย์ข้อมูลระดับ 1 จากภายนอก เงื่อนไขทางเทคนิคเริ่มต้นอาจต้องมีการเปลี่ยนใหม่เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการรักษาความปลอดภัยหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่คุณต้องจัดเก็บไว้ภายในเครือข่ายซึ่งไม่เผยแพร่ต่อบุคคลทั่วไป อุปกรณ์ “ติดตั้งในพื้นที่” หรือ “on-prem” เป็นแนวทางที่ผู้ประกอบการต่าง ๆ ใช้โดยการผสมผสานเซิร์ฟเวอร์ติดตั้งภายในแบบต่าง ๆ การโฮสต์ส่วนการทำงานภายในหลาย ๆ ด้าน (Wiki’s, Sharepoint, สคริปต์ Call Center) ที่ไม่สามารถป้อนเข้าคลาวด์เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนด (HIPAA, PCI-DSS ฯลฯ) หรือเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจอื่น ๆ ดังนั้นการทิ้งและเปลี่ยนชิ้นส่วนภายในใหม่จึงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ประจำเมื่อไดร์ฟเก่า เกิดปัญหาหรือไม่สามารถรอรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้นได้อีกต่อไป

แม้ว่าสถาปัตยกรรมการทำงานภายในจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ต้องทิ้งและเปลี่ยนไดร์ฟใหม่ แต่เราก็ยังพบส่วนการทำงานขนาดใหญ่และกลุ่มผู้ให้บริการที่ยังคงเลือกใช้ไดร์ฟใช้งานทั่วไปเหล่านี้กับศูนย์ข้อมูลอย่างจริงจัง หากมีบางอย่างผิดพลาด พวกเขาก็แค่ทิ้งและเปลี่ยนไดร์ฟใหม่เท่านั้น

จำนวนศูนย์ข้อมูลที่ใช้วิธีการแบบนี้กำลังลดจำนวนลงเรื่อย ๆ เนื่องจากต้นทุนของ SSD สำหรับองค์กรขนาดใหญ่กำลังลดลงเรื่อย ๆ ทำให้มีราคาถูกและน่าสนใจ และมีคุณสมบัติตรงกับการทำงานจริง คาดการณ์ได้และทำให้เซิร์ฟเวอร์มีเสถียรภาพในการทำงานสูง

การทำงานที่คาดการณ์ได้คือสิ่งสำคัญ

สำหรับศูนย์ข้อมูลระดับสูง ประสิทธิภาพในการทำงานที่คาดการณ์ได้คือคุณสมบัติสำคัญที่พวกเขาพิจารณาในการออกแบบศูนย์ข้อมูล ศูนย์ข้อมูลหลายแห่งปัจจุบันตระหนักและเข้าใจดีถึงความคุ้มค่าของการเลือกซื้อ SSD ประเภทที่เหมาะสมกับการใช้งาน ผู้ให้บริการโฮสต์ระบบคลาวด์จะต้องแน่ใจว่า SSD สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ของตนมีประสิทธิภาพในการทำงานที่คาดการณ์ได้และมีค่าหน่วงเวลาต่ำ

ลองนึกดูว่าหากไซต์ร้านค้าออนไลน์มีลูกค้าเพิ่มสินค้าไปยังรถเข็นแล้ว แต่พอเช็คเอาท์ปรากฏว่าเกิดความล่าช้าในการประมวลผลคำสั่งซื้อและการชำระเงิน ผลกระทบที่ตามมาจะเป็นอย่างไร ทั้งผู้ขายและลูกค้าจะรู้สึกได้ว่าการใช้งานไม่สะดวก ไม่น่าพึงพอใจและอาจส่งผลต่อธุรกิจในระยะยาว หากร้านค้าออนไลน์พบปัญหาหน่วง ลูกค้าอาจต่อว่าเกี่ยวกับกระบวนการเช็คเอาท์ และเริ่มมองหาโฮสต์, CDN หรือระบบให้บริการอื่นแทน

นอกเหนือจากค่าหน่วงเวลา ความทนทานของ SSD ก็เป็นอีกสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา SSD สำหรับศูนย์ข้อมูลจะมีค่าความทนทานที่สูงกว่า SSD สำหรับไคลเอนท์ ทำให้ปลอดภัยสำหรับการใช้งานเนื่องจากเสถียรภาพในการทำงานที่ดีและผ่านเงื่อนไขวงจรอายุผลิตภัณฑ์ที่ศูนย์ข้อมูลกำหนดไว้

ไดร์ฟสำหรับผู้ใช้ทั่วไปในปัจจุบันจะใช้วิธีแคชสำหรับการเขียนข้อมูลแบบพิเศษเพื่อลดต้นทุนโดยการนำส่วนประกอบ DRAM ความเร็วสูงออก SSD สำหรับใช้งานทั่วไปในปัจจุบันจะมีบัฟเฟอร์สำหรับเขียนข้อมูลขนาดเล็กโดยอาศัย NAND Flash ออนบอร์ด การบัฟเฟอร์ของไดร์ฟไคลเอนท์ทั่วไปมักไม่เต็มตลอดอายุการใช้งาน ผู้ใช้จึงไม่รู้สึกว่ามีปัญหาอะไร แต่หากติดตั้งไดร์ฟแบบเดียวกันในศูนย์ข้อมูลที่ทำงานตลอด 100 เปอร์เซ็นต์ (อ่าน/เขียนข้อมูลทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง) การทำงานจะช้าลงจนสังเกตได้

เวลารองรับการทำงานที่คาดการณ์ได้ไม่ได้อยู่ที่ IOPS เพียงอย่างเดียว

อีกสิ่งที่ต้องพิจารณาคือสิ่งที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเกิดสถานการณ์ไม่คาดคิดซ้ำ ๆ กัน หากมีปัญหาด้านเทคนิคกับ SSD สำหรับใช้งานทั่วไปที่ติดตั้งในเซิร์ฟเวอร์ โอกาสที่จะรับบริการหรือการแก้ไขที่น่าพอใจจากผู้ผลิตอาจไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวังเนื่องจากเป็นการใช้งานไดร์ฟผิดประเภท สำหรับการทำงานภายใต้ SLA ที่ต้องสามารถรองรับการทำงานได้ตามเกณฑ์ four 9's, five 9's การเสี่ยงใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับการใช้งานทั่วไปอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้

SSD สำหรับองค์กรมาพร้อมกับบริกมารรองรับที่ไม่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์สำหรับใช้งานทั่วไป SSD สำหรับองค์กรไม่ใช่ผลิตภัณฑ์จำหน่ายทั่วไป แต่ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษสำหรับงานที่เน้นการอ่านข้อมูลหรือมีการใช้งานแบบผสมผสาน ในหลายกรณีอาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อยสำหรับผลิตภัณฑ์แต่ละตัวตามเงื่อนไขในการใช้งานเช่น กรณีที่ต้องการให้สามารถทำงานได้ต่อเนื่องแบบไม่หยุดพัก หากมีบางอย่างผิดพลาดกับแคชของ SSD สำหรับองค์กร ทีมงานให้บริการของคุณสามารถโทรติดต่อเพื่อขอเปลี่ยนหรือปรับแต่งผลิตภัณฑ์ตามเงื่อนไขการทำงานของคุณ

SSD ที่ทำงานแบบเต็มประสิทธิภาพ

คำแนะนำที่ดีที่สุดในการเริ่มใช้งานเซิร์ฟเวอร์คือการพิจารณา SSD ที่เหมาะสมจากผู้ผลิตที่เชื่อถือได้ และพัฒนาสำหรับรูปแบบการทำงานของเซิร์ฟเวอร์แทนที่จะเป็น SSD สำหรับไคลเอนท์ทั่วไป ขณะติดตั้ง SSD ไคลเอนท์ในเซิร์ฟเวอร์ คุณกำลังกำหนดโครงร่างการทำงานของฮาร์ดแวร์ที่ไม่ผ่านการทดสอบการทำงานร่วมกัน โดยเป็นการเชื่อมต่อกับชุดควบคุมโฮสต์ (RAID Controllers) ที่ทำงานแตกต่างจากชุดควบคุมโฮสต์ของไคลเอนท์

คุณสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับองค์กรและปรับเปลี่ยนการทำงานได้ตามต้องการโดยไม่ทำให้ประสิทธิภาพหรือการรองรับการทำงานในระยะยาวได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ การเลือกใช้ SSD ระดับองค์กรยังมีเสถียรภาพในการทำงานที่เหนือกว่าสำหรับเซิร์ฟเวอร์ในภาพรวม

จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ไม่ได้หมายถึงการกระเบียดกระเสียน

#KingstonIsWithYou