ไดร์ฟ Solid State (SSD)
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ต้นทุนของแฟลช NAND ลดลงมากจนอยู่ในระดับที่อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลปฐมภูมิใหม่ ๆ เช่น ไดร์ฟ Solid State สามารถนำมาติดตั้งในเครื่องไคลเอนท์หรือเซิร์ฟเวอร์ได้ SSD ได้เข้ามาแทนที่ฮาร์ดดิสก์โดยตรง (ฮาร์ดไดร์ฟจานหมุน) สำหรับคอมพิวเตอร์ที่มีอินเทอร์เฟซ เช่น SATA หรือ SAS
SSD มีประสิทธิภาพที่โดดเด่นและข้อดีด้านความทนทานที่มากกว่าฮาร์ดไดร์ฟมาตรฐาน SSD ไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่ โดยเป็นอุปกรณ์กึ่งตัวนำทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ SSD จึงไม่มีปัญหาค่าหน่วงเวลาเนื่องจากชิ้นส่วนกลไกเหมือนฮาร์ดไดร์ฟเพราะไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่ SSD จึงทนต่อแรงกระแทกและการสั่นสะเทือนได้ดีกว่าฮาร์ดไดร์ฟ ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานแบบพกพา
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไดร์ฟ Solid State ถูกออกแบบมาให้ติดตั้งชิปหน่วยความจำ DRAM ซึ่งมีราคาแพง ทำให้ใช้งานกันเฉพาะกับเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพในการทำงานสูง
ในปัจจุบัน ต้นทุนแฟลช NAND ที่ลดลงทำให้ SSD ถูกใช้งานอย่างหลากหลายมากขึ้น ทั้งในกลุ่มผู้ใช้ทั่วไปและองค์กร หรือแม้แต่ในด้านการทหาร
ความทนทานของ SSD
Kingston เลือกใช้หน่วยความจำแฟลช NAND ที่มีระดับความทนทานเหมาะสำหรับงานที่ SSD ต้องรองรับ ซึ่งทำให้ Kingston สามารถนำเสนอ SSD หลากหลายรุ่นสำหรับการใช้งานต่าง ๆ ในราคาที่น่าดึงดูด
SSD สำหรับไคลเอนท์และองค์กรขนาดใหญ่จาก Kingston ที่มีระดับความทนทานครอบคลุมตลอดอายุการใช้งานเพื่อให้สอดรับกับงานที่ต้องการใช้กับ SSD สำหรับ SSD ไคลเอนท์ Kingston มีการกำหนดเงื่อนไข TBW (Terabytes Written) ไว้เพื่อให้ผู้ใช้สามารถคาดการณ์อายุการใช้งานของ SSD สำหรับการทำงานของตนเองได้
Kingston Enterprise SSD จะมีโครงสร้างการทำงานใกล้เคียงกัน โดยกำหนดค่า TWB และ DWPD (Dive Writes Per Day) ไว้ร่วมด้วยโดยจะอ้างอิงกับค่า TBW และระยะเวลารับประกันของ SSD เช่น SSD ขนาด 1TB จะมีค่าความทนทานที่ 1DWPD ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้สามารถเขียนข้อมูล 1TB ต่อวันโดย SSD จะสามารถใช้งานได้ 5 ปี ค่า TBW/DWPD เป็นเครื่องมือสำหรับลูกค้ากลุ่มองค์กรที่ติดตั้ง Kingston SSD ในการกำหนดองค์ประกอบในการทำงานสำหรับสถาปัตยกรรม IT ที่วางแผนใช้งาน
Kingston ยังได้พัฒนาซอฟต์แวร์ “KSM” (Kingston Storage Manager) เพื่อติดตามและคาดการณ์อายุการใช้งานของ SSD ลองยกตัวอย่างจากมาตรวัดก๊าซในรถยนต์ที่ผู้ใช้สามารถใช้เพื่อตรวจสอบสถานะของ SSD