1. ความทนทานและเสถียรภาพในการทำงานของ
ความร้อนคือสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหากับฮาร์ดไดรฟ์ และมักมีความร้อนสะสมจากการเคลื่อนที่อย่างต่อเนื่องของชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่ของ HDD ทำให้เกิดความเสียหายในระยะยาว เนื่องจาก SSD ไม่มีชิ้นส่วนเหล่านี้ ทำให้มีอุณหภูมิต่ำและมีประสิทธิภาพที่สูงกว่า SSD ยังเหมาะอย่างยิ่งในการแก้ไขปัญหาจากการร่วงหล่น การกระแทกและการสึกหรอหรือความเสียหายตามปกติ ทำให้มีโอกาสที่ข้อมูลจะสูญหายน้อยลง
2. SSD ทำงานได้รวดเร็วกว่าฮาร์ดไดรฟ์
SSD ทำงานได้เร็วกว่า HDD นับร้อยเท่า SSD บู๊ตระบบได้รวดเร็วกว่า โอนข้อมูลได้เกือบจะในทันทีและมีแบนด์วิธที่สูงเป็นพิเศษ ความเร็วที่มากกว่าทำให้ SSD สามารถรองรับข้อมูลในระดับความเร็วสูงสุดซึ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจในปัจจุบัน โดยเฉพาะขณะเรียกใช้โปรแกรมที่ต้องสืบค้นข้อมูลเป็นจำนวนมาก เช่น ระบบปฏิบัติการ นอกจากนี้ SSD ยังทำงานได้เสถียรเป็นพิเศษ ทำให้ข้อมูลที่จัดเก็บปลอดภัยเต็มที่
SATA SSD: HDD รองรับความเร็วในการเขียนข้อมูลเพียง 50-120MB/s เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว SSD รองรับบัส SATA ที่ความเร็วถึง 550 MB/s และแม้ว่าจะมีข้อจำกัดในส่วนของบัส แต่ก็จะสัมผัสได้ว่าประสิทธิภาพในการทำงานโดยรวมเหนือกว่า 10-15 เท่าสำหรับ SATA SSD เมื่อเทียบกับ HDD แบบเก่า
NVMe SSD: เทคโนโลยี NVMe จะใช้บัส PCIe แทน SATA เพื่อให้มีแบนด์วิธมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดสำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล PCIe 4.0 (เวอร์ชั่นปัจจุบัน) รองรับการสื่อสารถึง 32 ช่องทาง อีกทั้งในทางทฤษฎียังโอนข้อมูลได้สูงสุดถึง 64,000Mb/s เมื่อเทียบกับที่ 600Mb/s ที่เป็นขีดจำกัดของ SATA III
3. ประหยัดพลังงาน
เนื่องจาก SSD ไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่ ทำให้ใช้พลังงานในการทำงานน้อยกว่า HDD ที่ใช้จานแม่เหล็กหมุน ความประหยัดพลังงานคือจุดเด่นที่สำคัญของการใช้งาน SSD โดยเฉพาะสำหรับ PC และอุปกรณ์พกพาที่ระยะเวลาใช้งานแบตเตอรี่คือตัวแปรสำคัญที่ทุกคนคาดหวังเมื่อเลือกซื้อ
4. น้ำหนักที่น้อยกว่า ไม่มีเสียงรบกวน
ขนาดที่เล็กกว่าทำให้ SSD มีน้ำหนักน้อยกว่า HDD ที่เทอะทะที่ต้องมีหัวอ่านแม่เหล็กและจานโลหะ ความกะทัดรัดทำให้ SSD เหมาะอย่างยิ่งสำหรับโน้ตบุ๊ก แท็บเล็ตและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กอื่น ๆ เนื่องจากไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่ SSD จึงทำงานเงียบกว่า HDD ที่มีทั้งเสียงและการสั่นสะเทือนซึ่งเป็นสิ่งรบกวนอย่างยิ่ง
5. ขนาด/ฟอร์มแฟคเตอร์ที่สะดวกในการใช้งานมากกว่า
นับตั้งแต่มีการเปิดตัว HDD มีข้อจำกัดที่สำคัญจากขนาดที่เทอะทะ ในทางกลับกัน SSD มีจำหน่ายอยู่หลายขนาด โดยขนาดเล็กสุดมีขนาดเพียง 2.5 นิ้วใกล้เคียงกับหมากฝรั่งแท่งเท่านั้น
ต่อไปนี้คือฟอร์มแฟคเตอร์สำหรับ SSD ที่ใช้กันทั่วไปมากที่สุด:
ฟอร์มแฟคเตอร์ 2.5 นิ้ว คือรุ่นที่นิยมใช้กันมากที่สุด และคุ้มค่าที่สุดต่อพื้นที่ GB โดยติดตั้งอยู่ภายในเคสไดรฟ์"
mSATA เป็นฟอร์มแฟคเตอร์ขนาดจิ๋วที่มีการเชื่อมต่อในแบบต่าง ๆ ทั้งแผงวงจรแบบเปลือย ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานที่มีพื้นที่จำกัด
M.2 เป็นแผงวงจรเปลือยที่มีจำหน่ายทั้งรุ่น SATA และ PCIe NVMe ถือเป็นฟอร์มแฟคเตอร์ขนาดเล็กที่มีขนาดเท่ากับหมากฝรั่งแท่ง