ถามผู้เชี่ยวชาญ
การวางแผนโซลูชั่นที่เหมาะสมต้องอาศัยความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่งานและระบบของคุณต้องการ ให้ผู้เชี่ยวชาญจาก Kingston คอยแนะนำคุณ
ถามผู้เชี่ยวชาญRob May ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการของ ramsac พร้อมทีมงานที่ปรึกษากว่า 100 ชีวิตที่ทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาระบบ/บริการรองรับด้านเทคโนโลยีและการรรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (ประสบการณ์มากกว่า 30 ปี)
Rob คือแอมบาสซาเดอร์ด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ของสหราชอาณาจักรให้แก่ Institute of Directors และได้รับการจัดอันดับในระดับ 5 ของโลกในสาขา Cyber Security Thought Leaders/Influencers ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการที่ปรึกษาของ The Resilience Centre for the South East และได้มีโอกาสร่วมงานกับกลุ่มอุตสาหกรรม ภาควิชาการและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายมากมาย นอกจากนี้เขายังเป็นนักเขียน ผู้นำทางความคิดและผู้บรรยายในระดับนานาชาติที่มีรางวัลรับรอง
ในฐานะ MD ของ ramsac ซึ่งเป็นผู้ให้บริการในกลุ่ม Managed Service Provider (MSP) มาเกือบสามสิบปี และได้พบเห็นปัญหามากมายที่เกิดขึ้น ทั้งในช่วงเศรษฐกิจถดถอย ช่วงการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีและช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคที่ได้รับแรงกดดันมากมายทั้งในเชิงเศรษฐกิจและการเมือง
การล็อคดาวน์ในรูปแบบและช่วงเวลาที่แตกต่างกันไปทำให้เกิดความยากลำบากและผลกระทบต่อธุรกิจต่าง ๆ มากมาย แต่ยังมีธุรกิจที่สามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายนี้ไปได้ ผมได้ทำงานร่วมกับผู้ประกอบการมากมายที่ปัจจุบันธุรกิจยังดำเนินไปได้ด้วยดี สถานการณ์แพร่ระบาดส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากต่อชีวิตการทำงานของคนส่วนใหญ่ แต่ในทางกลับกันก็มีสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นด้วยในเวลาเดียวกัน
บริษัทที่ให้บริการด้านเทคโนโลยีมักคิดค่าใช้จ่ายตามจำนวนผู้ใช้ ทำให้บริษัทหลายแห่งมีรายได้ต่อปีที่ลดลงเนื่องจากจำนวนลูกค้าที่ให้บริการลดลงตามจำนวนบุคลากรที่ถูกพักงาน แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงแนวทางการดำเนินธุรกิจที่สามารถชดเชยกันได้เช่นกัน
รูปแบบการทำงานในปัจจุบันเน้นที่การทำงานทางไกล ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนเข้าหาระบบคลาวด์และศูนย์ข้อมูลอย่างจริงจังมากขึ้น ธุรกิจหลายแห่งมีการลงทุนด้านเทคโนโลยี และต้องปรับเปลี่ยนพื้นที่สำนักงานใหม่เพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลง หรืออาจต้องมีการปรับย้ายโครงสร้างพื้นฐานเซิร์ฟเวอร์ของตน ความจำเป็นและความต้องการเหล่านี้ทำให้ต้องมีการอัพเกรดเซิร์ฟเวอร์อย่างจริงจัง (ทั้งเซิร์ฟเวอร์ในพื้นที่และผ่านคลาว์/ศูนย์ข้อมูล) นี่เป็นการปรับตัวที่สมเหตุสมผล แต่ก็มีผู้ประกอบการหลายรายที่มองสถานการณ์ผิดพลาดไปเช่นกัน
การอัพเกรดโดยปกติมักจะกระจุกตัวอยู่ที่หน่วยความจำและสื่อบันทึกข้อมูล
การอัพเกรดเมมโมรี่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับเซิร์ฟเวอร์ และโดยปกติจะต้องทำการอัพเกรดเช่นนี้เมื่อการทำงานผ่านระบบเสมือนจริงเพิ่มมากขึ้น มีผู้ใช้มากขึ้น เปิดตัวโปรแกรมฐานข้อมูลใหม่ หรือเมื่อมีการเพิ่มฟังก์ชั่นการทำงานในเชิงพาณิชย์ให้กับเว็บไซต์ให้บริการ การอัพเกรดหน่วยงานจำสำหรับเซิร์ฟเวอร์ของคุณจะทำให้คุณสามารถรองรับงานได้มากขึ้น การตอบสนองฉับไวมากยิ่งขึ้นสำหรับสำหรับผู้ที่ใช้คลาวด์ และยังทำให้แอพพลิเคชั่นที่บันทึกไว้ในหน่วยความจำทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
หน่วยความจำเซิร์ฟเวอร์ที่เพิ่มขึ้นทำให้คุณสามารถรองรับเครื่องเสมือนจริงได้มากกว่า และจัดสรรทรัพยากรผ่านฮาร์ดแวร์ในปัจจุบันของคุณได้อย่างเต็มขีดความสามารถมากขึ้น ระบบเสมือนจริงทำให้ค่าใช้จ่ายในการครอบครองรวมต่ำลง มีหน่วยความจำมากขึ้นสำหรับเดสก์ทอปเสมือนจริง (VDI) ซึ่งหมายถึงการตอบสนองของแอพที่บันทึกไว้ในหน่วยความจำที่รวดเร็วยิ่งขึ้น (VDI คือระบบเสมือนจริงแบบเดสก์ทอปที่เป็นการให้บริการฟังก์ชั่นการทำงานแบบเดสก์ทอปผ่านโฮสต์จากเซิร์ฟเวอร์ส่วนกลางให้แก่ไคลเอนท์ปลายทางของเครือข่าย)
สื่อบันทึกข้อมูลเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของระบบเสมือนจริงเซิร์ฟเวอร์ทั้งเพื่อรองรับข้อมูลเป็นจำนวนมาก และที่สำคัญที่สุดคือความเร็วในการสืบค้นข้อมูล ระบบสั่งการสัญญาณขาเข้า/ขาออกแบบสุ่มและการเรียกค้นข้อมูลในระดับสูงอาจส่งผลอย่างมากต่อฮาร์ดไดร์ฟที่เป็นชิ้นส่วนกลไกแบบปกติในเซิร์ฟเวอร์โฮสต์เสมือนจริง การรองรับแอพพลิเคชั่นการใช้งาน การรองรับการทำงานของผู้ใช้และการเรียกค้นข้อมูลคือข้อจำกัดที่สำคัญที่กระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานโดยรวมของระบบ การติดตั้งหน่วยความจำเซิร์ฟเวอร์และไดร์ฟ Solid State (SSD) ที่ไม่มีชิ้นส่วนเคลื่อนที่จะเหมาะอย่างยิ่งในการเพิ่มประสิทธิภาพและความจุเพื่อให้ระบบเสมือนจริงมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถทำงานได้มากขึ้นโดยใช้ทรัพยากรที่น้อยกว่า
สื่อบันทึกข้อมูลสำหรับเซิร์ฟเวอร์เริ่มมีการติดตั้งแยกจากพื้นที่ของศูนย์ข้อมูลมากขึ้นเรื่อย ๆ และทำงานผ่านคลาวด์แทน ทำให้ต้องมีการเตรียมโครงสร้างพื้นฐานรองรับทั้งในส่วนของไดร์ฟรองรับข้อมูลและหน่วยความจำมากขึ้นตามไปด้วย SSD มีความสามารถในการสืบค้นข้อมูลที่รวดเร็วทำให้ระบบคลาวด์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพสำหรับข้อมูลทุกประเภทที่มีการประมวลผล ระบบจัดเก็บข้อมูลที่ได้รับการออกแบบมาอย่างดีจะมีรูปแบบการทำงานของไดร์ฟแบบแบ่งเป็นขั้น ๆ (ความเร็วและราคาที่แตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์ในการใช้สื่อบันทึกข้อมูลและการสืบค้นข้อมูล) เพื่อให้แน่ใจว่าหน่วยงานต่าง ๆ จะสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เหมาะสมตามขอบเขตของตนเองได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากที่สุด
ทุกอย่างเริ่มต้นจากส่วนประกอบติดตั้ง หลาย ๆ คนไม่ใส่ใจในการเลือกหน่วยความจำให้ดี (เนื่องจากเป็นต้นทุนที่สำคัญของเซิร์ฟเวอร์) หน่วยความจำ DIMM สำหรับเซิร์ฟเวอร์มักเป็น unbuffered uDIMM, registered RDIMM หรือ load-reduced LRDIMM
นอกจากนี้ยังต้องมีการพิจารณาหน่วยความจำให้เหมาะสมกับโปรเซสเซอร์ที่ใช้กับเซิร์ฟเวอร์ด้วย จำนวนช่องสัญญาณของหน่วยความจำและแถวของหน่วยความจำก็อาจมีผลอย่างมากต่อประสิทธิภาพในการทำงาน นี่คือสิ่งที่จะต้องพิจารณาให้ดีขณะวางแผนอัพเกรด อย่าเลือกซื้อหน่วยความจำอายุ 12 เดือนสำหรับการอัพเกรดในอนาคตที่อาจจำกัดประสิทธิภาพในการทำงานของคุณ วางแผนและขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการกำหนดโครงร่างการทำงานสำหรับเซิร์ฟเวอร์ของคุณโดยเฉพาะ
มาตรฐานและรายละเอียดทางเทคนิคสำหรับหน่วยความจำอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ JEDEC ซึ่งดูแลด้านการพัฒนามาตรฐานแบบเปิดสาธารณะสำหรับอุตสาหกรรมไมโครอิเล็กทรอนิกส์ การพิจารณามาตรฐานและรายละเอียดทางเทคนิคที่กำหนดจะช่วยให้สามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง เช่น ในการพิจารณาเมนบอร์ดที่จะเลือกใช้ในปัจจุบันจะต้องดูจากมาตรฐาน DDR5 ใหม่ซึ่งหน่วยความจำจะมีความหนาแน่นและความเร็วที่เหนือกว่าเดิมอย่างมาก DDR5 DIMM มีจำนวนขาต่อที่เท่ากัน (288) กับ DDR4 DIMM แต่เค้าโครงของขาต่อจะแตกต่างกันและสามารถใช้ได้กับสล็อต DDR5 เท่านั้น
การอัพเกรดถือเป็นการตัดสินใจที่ละเอียดอ่อนเนื่องจากสถานการณ์ทางธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงและเติบโตขึ้นอยู่ตลอดเวลา การวางแผน ระบุและจัดซื้ออุปกรณ์อัพเกรดที่เหมาะสมจึงถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง! ส่วนประกอบที่ไม่ถูกต้องจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน รวมทั้งทำให้คุณเสียเวลาและเงินโดยใช่เหตุ อย่าเชื่อแต่คำแนะนำของผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์ เพราะว่าจากประสบการณ์ของผม คนเหล่านี้มักไม่ได้พิจารณาแผนงานและ/หรือประเมินโครงร่าง/ประสิทธิภาพในการทำงานที่คุณคาดหวัง แต่ต้องการขายหน่วยความจำเพิ่มเป็นสำคัญ โดยส่วนตัวแล้วผมขอแนะนำให้ใช้บริการจากทีมงาน “Ask an Expert” จาก Kingston เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมสำหรับสถาปัตยกรรมเซิร์ฟเวอร์ทุกรูปแบบ ทำให้โอกาสผิดพลาดจะเกิดขึ้นได้น้อยมาก!
อย่าแค่คิดว่าเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ก็จบ ขอคำแนะนำที่เหมาะสม และพิจารณาแผนงานในการอัพเกรดอย่างชาญฉลาดเพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของคุณทั้งในปัจจุบันและการเติบโตในอนาคต
#KingstonIsWithYou
การวางแผนโซลูชั่นที่เหมาะสมต้องอาศัยความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่งานและระบบของคุณต้องการ ให้ผู้เชี่ยวชาญจาก Kingston คอยแนะนำคุณ
ถามผู้เชี่ยวชาญ