มือกำลังพิมพ์อยู่บนแป้นพิมพ์และมองไปที่เอกสาร

วิธีการกู้คืนไฟล์ที่ลบทิ้งไปแล้วใน Windows และ MacOS

คุณเคยอยากจะอวดไฟล์สำคัญ ๆ กับครอบครัว เช่น ภาพหรือวิดีโอ จากคอมพิวเตอร์ของคุณแล้วไม่สามารถค้นหาไฟล์เหล่านั้นได้หรือไม่ นี่เป็นเรื่องที่ทำใจได้ยากมาก! สิ่งที่น่าเศร้าคือการลบข้อมูลโดยไม่ได้ตั้งใจเกิดขึ้นบ่อยกว่าที่คุณคิด แต่ถ้าโชคดีคุณอาจยังสามารถกู้ข้อมูลที่ทำหายไปได้เมื่อทำตามคำแนะนำต่อไปนี้!

วิธีการกู้ไฟล์ที่ลบทิ้งไปแล้วใน Windows

1. ตรวจสอบถังขยะ

เมื่อมีการลบไฟล์หรือข้อมูลสูญหาย ถังขยะเป็นจุดแรกที่คุณควรเข้าไปตรวจสอบ ในคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ หลังจากลบไฟล์แล้ว ถังขยะคือตำแหน่งถัดไปที่ไฟล์จะไปอยู่ สามารถใช้การค้นหาในถังขยะเพื่อเลือกและกู้คืนไฟล์ไปยังโฟลเดอร์เดิมหากยังไม่มีการล้างถังขยะ

คุณสามารถตั้งค่าให้มีการขอการยืนยันทุกครั้งที่คุณลบไฟล์ โดยป๊อปอัพจะปรากฏขึ้นที่หน้าจอเพื่อให้คุณยืนยัน เปิดใช้งานได้โดยคลิกขวาที่ถังขยะบนเดสก์ทอป แล้วคลิกที่คุณสมบัติ จากนั้นเลือก (Display delete confirmation dialogue)

วิธีการกู้คืนไฟล์จากถังขยะ:

  • เปิดถังขยะจากเดสก์ทอปหรือเมนู Start
  • ค้นหาไฟล์ที่หายไปที่คุณต้องการกู้คืน
  • แรเงาเลือกไฟล์ที่ต้องการแล้วคลิก “Restore” หากคุณต้องการกู้คืนไฟล์หลายรายการพร้อมกัน สามารถเลือกไฟล์ทั้งหมด จากด้านซ้ายบน คลิกที่ “Restore the selected items”
  • หรือสามารถลากและวางไฟล์จากถังขยะไปที่โฟลเดอร์อื่นหากไม่ต้องการกู้ไฟล์กลับไปที่ตำแหน่งเดิม

2. File History backup

File History backup เป็นคุณสมบัติการทำงานใน Windows 8.1, 10 และ 11 เพื่อบันทึกสำเนาข้อมูลไปยังพื้นที่จัดเก็บข้อมูลในเครือข่ายหรือ SSD หรือฮาร์ดไดร์ฟต่อพ่วง นี่เป็นตัวเลือกในลำดับถัดไปที่คุณควรทดลองใช้หลังจากตรวจสอบถังขยะแล้ว! ผู้ใช้จะต้องเปิดใช้งานคุณสมบัตินี้ก่อนที่ข้อมูลจะสูญหายและเรียกใช้การสำรองข้อมูลรอบแรก นี่ไม่ใช่ค่าการทำงานเริ่มต้น กรุณาดูรายละเอียด การตั้งค่าการสำรองข้อมูลสำหรับ Windows ได้จากคู่มือของเรา

การกู้คืนไฟล์โดยใช้ File History backup:

  • ไปที่แถบค้นหาของ Windows แล้วพิมพ์ข้อความ "Restore your files with File History"
  • ค้นหาไฟล์ที่ต้องการกู้คืน อาจมีข้อมูลมากกว่าหนึ่งเวอร์ชั่น!
  • คลิกที่เวอร์ชั่นของไฟล์ข้อมูลแล้วคลิกที่ Restore คุณสามารถลากไปที่ตำแหน่งใหม่หรือเก็บไว้ในโฟลเดอร์เดิมก็ได้

3. Windows File Recovery

ทางเลือกสุดท้ายที่เราแนะนำคือใช้ Windows File Recovery แอพนี้สามารถกู้คืนไฟล์ที่ถูกลบทิ้งได้จากอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลในเครื่อง เช่น ไดร์ฟ USB หรือ SSD มีสองโหมดการทำงานให้คุณเลือกใช้ได้แก่ Regular และ Extensive Regular เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการกู้ข้อมูลไฟล์ที่เพิ่งลบทิ้ง ส่วน Extensive จะขยายการค้นหาให้ครอบคลุมไฟล์ที่ลบมาระยะหนึ่งแล้ว แม้ว่าจะเป็นขั้นตอนที่อาจยุ่งยากสำหรับผู้ใช้ทั่วไป แต่ก็สามารถช่วยคุณได้หากคุณต้องการที่จะกู้ข้อมูลจริง ๆ! ไม่ต้องกังวล คุณสามารถดูคำแนะนำทั้งหมดได้จากหน้า "กู้ไฟล์ที่สูญหายใน Windows 10"

วิธีการกู้คืนไฟล์ที่ลบทิ้งไปแล้วใน MacOS

1. ตรวจสอบข้อมูลในถังขยะ

Windows, MacOS มักจะย้ายไฟล์ทั้งหมดที่ถูกลบไปที่ถังขยะ วิธีเดียวที่ไฟล์เหล่านี้จะไปที่ถังขยะได้คือการที่คุณลบข้อมูลด้วยตัวเองหรือกรณีที่แอพส่งไฟล์ไปที่ถังขยะเมื่อคุณลบข้อมูลจากในแอพ การล้างข้อมูลถังขยะสามารถทำได้เองเช่นกันหรือหากคุณตั้งค่า Finder ไว้ให้ล้างข้อมูลหลังผ่านไปตามจำนวนวันที่กำหนดก็สามารถทำได้เช่นกัน

การกู้คืนไฟล์จากถังขยะของคุณ:

  • เปิดถังขยะขึ้นมา
  • ค้นหาไฟล์ที่ต้องการกู้คืนแล้วคลิกเลือก
  • นอกจากนี้คุณยังสามารถลากและวางไฟล์ไปที่ตำแหน่งใหม่หากต้องการ

2. การสำรองข้อมูลผ่าน Time Machine

Time Machine เป็นแอพพลิเคชั่นในตัวที่ผู้ใช้สามารถตั้งค่าสำรองข้อมูลอัตโนมัติไปยังอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลต่อพ่วงและสามารถกำหนดเวลาเป็นรายชั่วโมง รายวันหรือรายสัปดาห์ แต่หลังจากอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเต็มแล้ว ดิสก์จะลบไฟล์เก่าทิ้งไป

ในการกู้คืนไฟล์จาก Time Machine คุณจะต้องตั้งค่าไว้ก่อนที่ไฟล์จะหายไปหรือก่อนที่จะทำการสำรองข้อมูล กรุณาดูรายละเอียด การตั้งค่าการสำรองข้อมูลสำหรับ MacOS ได้จากคู่มือของเรา

กู้คืนไฟล์ผ่าน Time Machine:

  • เชื่อมต่ออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่คุณตั้งค่าไว้ใน Time Machine
  • ไปที่เมนู Apple แล้วคลิกที่ System Preferences แล้วคลิกเลือก Time Machine
  • ค้นหาไฟล์ที่หายไปแล้วคลิก Restore เพื่อกู้กลับไปที่ตำแหน่งเดิม

3. ซอฟต์แวร์กู้คืนไฟล์

ซอฟต์แวร์กู้คืนไฟล์สามารถช่วยคุณได้ไม่แตกต่างจากระบบที่มีอยู่ใน Windows บางครั้งซอฟต์แวร์นี้ก็เรียกว่า “unerase” หรือ “undelete” ซึ่งอาจสามารถค้นหาไฟล์ที่ถูกลบทิ้งและคุณได้ล้างไฟล์ข้อมูลถังขยะไปแล้ว แต่ระบบยังไม่ได้เขียนทับข้อมูลในเซคเตอร์ดังกล่าวของ HDD หรือ SSD ที่มีการบันทึกไฟล์ไว้ คุณสามารถดำเนินการเพิ่มเติมโดยการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ไปที่ SSD ต่อพ่วง เพื่อให้มั่นใจมากที่สุด!

หากตัวเลือกเหล่านี้สามารถแก้ไขปัญหาได้ เราขอแสดงความยินดีด้วย! สถานการณ์เช่นนี้อาจเกิดขึ้นได้อีกแม้ว่าจะไม่ตั้งใจก็ตาม! เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดสถานการณ์เช่นนี้ แนะนำให้มีแผนการสำรองข้อมูลไว้ มี คำแนะนำง่าย ๆ ในการสำรองข้อมูลที่คุณสามารถนำไปใช้ เช่น ผ่านเครื่องมือสำรองข้อมูลในตัวหรือใช้อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลต่อพ่วง สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในครั้งถัดไปที่คุณทำไฟล์ข้อมูลหมาย

#KingstonIsWithYou

บทความที่เกี่ยวข้อง