ขนาดไฟล์ของเกม Triple-A

นักพัฒนาเกมมีการแข่งขันกันอยู่ตลอดเวลาและต้องแข่งกับเวลาในการเปิดตัวเกมที่มีเทคนิคและภาพที่โดดเด่นที่สุดสำหรับแฟน ๆ เกมเมอร์ล้วนคาดหวังประสบการณ์ที่ตื่นตา ยิ่งใหญ่และแปลกใหม่มากกว่าเดิม ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่จะทำให้เกมมีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ยิ่งเกมใหญ่เท่าไร ขนาดของไฟล์ข้อมูลก็ใหญ่ตามไปด้วย ซึ่งอาจเป็นปัญหาสำหรับเจ้าของเครื่องเล่นเกม อุปกรณ์บันทึกข้อมูลในเครื่องเป็นอุปกรณ์ที่มีต้นทุนสูง ในขณะที่ไดรฟ์จัดเก็บข้อมูลภายในรุ่นปัจจุบันที่มีพื้นที่จัดเก็บมากก็ยังอาจดูเล็กไปเมื่อเทียบกับขนาดของเกม Triple-A ที่เปิดตัวในปีนี้

ผู้พัฒนาเกมอย่าง Sony, Microsoft และ Nintendo มีการเตรียมการอย่างไรกับขนาดไฟล์เกมที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลสำหรับเครื่องเล่นเกมของตนเองที่ใช้งานอยู่และภาระที่จะเกิดขึ้นกับเกมเมอร์ที่จะต้องจัดหาสื่อบันทึกข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตัวเองหรือไม่ ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์เองมีการพัฒนาเครื่องเกมมิ่งที่พร้อมรองรับเกมใหม่ ๆ ที่จะต้องใช้สื่อบันทีกข้อมูลที่มีขนาดใหญ่และทำงานได้เร็วระดับสุดยอดหรือไม่

เกมทุกประเภทมีขนาดใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ

ขนาดของเกมที่ขยายมากขึ้นอย่างรวดเร็วไม่ได้จำกัดอยู่แค่เกม Open World เกมแอคชั่น/สยองขวัญแบบเอาตัวรอดจาก Capcom สำหรับเครื่อง PS4, PS5, Xbox และ PC โฉมใหม่อย่าง Resident Evil 4 มีขนาดมากถึง 68GB ในขณะที่เวอร์ชั่นปี 2021 Resident Evil Village มีขนาดเพียง 35GB เท่านั้น เช่นเดียวกันกับเกมจาก Respawn Entertainment อย่าง Star Wars Jedi: Survivor สำหรับ PS5, Xbox และ PC ที่มีขนาดถึง 130GB ซึ่งสูงกว่า Star Wars Jedi: Fallen Order เวอร์ชั่นก่อนหน้าที่มีขนาด 43GB เกือบ 100GB

แม้แต่เกมประเภทที่คุณไม่คิดว่าจะมีขนาดใหญ่ก็ใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลมากขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ Street Fighter 6 เกมต่อสู้ตัวใหม่ล่าสุดจาก Capcom ก็คาดว่าจะมีขนาดถึง 60GB ในเครื่อง PS4, PS5, Xbox และ PC ในขณะที่ Street Fighter 5 มีขนาดเพียง 12.4GB ขณะเปิดตัวในปี 2016

ทำไมเกมตัวใหม่ ๆ จึงมีขนาดใหญ่มาก

มีความเห็นที่หลากหลายในการพยายามอธิบายว่าทำไมเกมใน PS5 และ Xbox S/X ถึงมีขนาดมโหฬารเช่นนี้ ความเห็นที่ตรงกันมากที่สุดน่าจะเป็นสถานการณ์ของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่เริ่มมีการเชื่อมต่อกับโทรทัศน์หรือจอภาพความละเอียด 1080p ถึง 4K จอความละเอียดสูงสามารถแสดงรายละเอียดในกราฟิกได้มากขึ้นถึงสี่เท่า ผู้พัฒนาเกมต้องการใช้ประโยชน์จากกราฟิกที่ละเอียดขึ้นเพื่อให้ได้เกมที่ดูน่าตื่นตาทั้งสำหรับสภาพแวดล้อมและตัวละครเอง เนื่องจากกราฟิกเหล่านี้มีรายละเอียดมาก ทำให้ใช้พื้นที่มากไปด้วย หลักการนี้มีผลกับออบเจคต์ทั้งหมดในเกม และทำให้ไฟล์เกมมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก ในขณะที่นักพัฒนาพยายามอย่างเต็มที่ในการหมุนเวียนออบเจคต์ต่าง ๆ ในกราฟิกมาใช้ แต่ก็ช่วยได้แค่ระดับหนึ่งเท่านั้น

ในขณะที่มีการพัฒนารายละเอียดกราฟิกให้เพิ่มมากขึ้น แต่ราคาของเกมก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากแต่อย่างใด ราคาขายปลีกสำหรับเกม Triple-A มีการปรับเพิ่มขึ้นซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เกมเมอร์ทั่วโลกคาดหวัง แต่ก็ถือว่าเทียบไม่ได้กับต้นทุนการพัฒนาเกมที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างมาก สิ่งนี้นำไปสู่อีกสาเหตุที่ผู้ปฏิบัติงานในอุตสาหกรรมเกมมองว่าทำให้ไฟล์เกมที่มีขนาดใหญ่ นั่นคือโอกาสในการบีบอัดข้อมูลน้อยลง เมื่อมีการส่งต่อเกมผ่านสื่อทางกายภาพ อย่าง CD, DVD หรือตลับเกม ความสามารถในการลดขนาดของเกมจะมีผลต่อต้นทุนอย่างมากเนื่องจากจะทำให้รายจ่ายในการเผยแพร่เกมลดลง ปัจจุบันมีเกมเพียงหนึ่งในยี่สิบเกมเท่านั้นที่ใช้สื่อบันทึกข้อมูลทางกายภาพเหล่านี้ ในขณะที่เกมส่วนใหญ่จะใช้การดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่สำหรับติดตั้งร่วมกับการอ่านไฟล์จากดิสก์หรือการ์ดเกม ค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บไฟล์เกมขนาดใหญ่เพื่อรองรับการดาวน์โหลดจำนวนมหาศาลถือว่าสูงมาก แต่ก็มีค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดที่น้อยลงมากเทียบกับการจัดจำหน่ายแบบกายภาพ ผลที่เกิดขึ้นคือผู้เกี่ยวข้องไม่ค่อยเห็นประโยชน์ในทางเศรษฐกิจของการบีบอัดหรือบริหารทรัพยากรเพื่อควบคุมขนาดไฟล์ข้อมูล ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ร่วมกับโอกาสที่ลดลงจากเงื่อนไขด้านกราฟิกและกรอบเวลาทำงานที่สั้นลงในการบริหารจัดการทรัพยากร ทำให้ขนาดไฟล์เกมเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ปัจจัยสุดท้ายที่อาจจะไม่ได้พูดถึงกันมากนัก คือการพัฒนาเกมที่มีการโต้ตอบมากขึ้นและซับซ้อนมากขึ้นเพื่อให้เกมเมอร์รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับเกมและมีการปฏิสัมพันธ์ที่มากกว่าเดิม ไฟล์เสียงที่มีขนาดมากขึ้นและคุณภาพดีขึ้นยังส่งผลทำให้ขนาดไฟล์โดยรวมใหญ่กว่าเดิม ดูตัวอย่างได้จาก Starfield ในตอนที่ Bethesda มีการเปิดตัว Skyrim ในปี 2012 มีบทพูดประมาณ 60,000 ชุด Fallout 4 ในปี 2015 มีข้อมูลเสียงเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าอยู่ที่ 110,000 ชุด Starfield ทำคะแนนแซงหน้าไปอีกด้วยบทพูดกว่า 293,000 ชุด บทพูดเหล่านี้ต้องอาศัยไฟล์เสียง ซึ่งยังไม่นับรวมระบบที่จะนำบทพูดเหล่านี้มาใช้